ตรวจสอบข่าว: มุมมองสงครามอิสราเอล-ฮามาสผ่านเลนส์ ‘อิหร่าน-จีน-รัสเซีย’

  • VOA

สัญลักษณ์ "X" ติดตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสื่อสังคมออนไลน์ในชื่อเดิมคือทวิตเตอร์ ในนครซานฟรานซิสโก 28 กรกฎาคม 2023 (เอพี)

Polygraph จับกระแสการเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่เหล่าผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาสใช้ช่วงเวลาแห่งวิกฤตความขัดแย้งนี้ ในการผลักดันการเผยแพร่เนื้อหาเชิงต่อต้านอิสราเอลและสหรัฐฯ บนสื่อสังคมออนไลน์

ข้อความแคปชั่นบนโพสต์ไวรัล ในบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ X ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ในชื่อ WarMonitors ระบุว่า “ระบอบก่อการร้ายไซออนนิสต์ได้ทิ้งระเบิดฟอสฟอรัสบริเวณตึกอัล คารามา ที่ฉนวนกาซ่า” คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพความเสียหายของระเบิดในกาซ่า หลังอิสราเอลโจมตีตอบโต้การก่อเหตุรุนแรงจากกลุ่มฮามาสเมื่อ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา

ต่อมาอิสราเอลยืนยันการระเบิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ให้ภาพเหตุการณ์ความเสียหายในกาซ่าหลังเหตุระเบิดโดยอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ระเบิดฟอสฟอรัสโดยฝั่งอิสราเอลยังคงเป็นการคาดเดาเท่านั้น ระหว่างที่ฝ่ายตรวจสอบความจริงไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้

ทั้งนี้ มีจุดแตกต่างสำคัญอยู่หนึ่งอย่างที่บัญชี WarMonitors กล่าวถึงอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส นั่นคือ บัญชีดังกล่าวมักจะโพสต์คำกล่าวและแถลงการณ์โดยตรงจากกลุ่มฮามาส รวมทั้งใบปลิวและวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มติดอาวุธ แต่ในทางตรงกันข้าม บัญชีนี้จะกล่าวถึงรัฐบาลและทางการอิสราเอลว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” และ “กลุ่มสุดโต่ง” ขณะที่ไม่เคยเรียกกลุ่มฮามาสว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายหรือประณามการกระทำใด ๆ ของกลุ่มฮามาสแต่อย่างใด

ระหว่างที่บัญชีนิรนามบนสื่อสังคมออนไลน์นับพันบัญชี ต่างสนับสนุนการเล่าเรื่องที่คล้ายกับสิ่งที่บัญชี WarMonitors นำเสนอ บัญชีนี้กลับฉายภาพที่ชัดเจนว่าสื่อสังคมออนไลน์สามารถใช้เป็นพื้นที่เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อและข้อมูลเท็จได้อย่างมีประสิทธิภาพและตบตาคนทั่วไปได้อย่างไร

อันที่จริงแล้ว บัญชี WarMonitors ได้แสดงให้เห็นกระแสใหม่ “แห่งยุคหลังสิ้นสุดทวิตเตอร์” บนสื่อสังคมออนไลน์ X ที่บัญชีนิรนามถูกรับรองโดยแพลตฟอร์มซึ่งหยิบยื่นความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีเหล่านี้

เมื่อวิกฤตอิสราเอล-ฮามาสปะทุขึ้น บัญชี WarMonitors ที่อยู่ในบัญชีที่ต้องจับตาของนักวิเคราะห์เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ซึ่งสามารถลวงให้อิลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอเมริกันและเจ้าของสื่อสังคมออนไลน์ X

หลังจากโจมตีโดยกลุ่มฮามาส มัสก์แนะนำให้ติดตามบัญชี WarMonitors และอีกบัญชี X สำหรับข้อมูลสถานการณ์ในอิสราเอลที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ ก่อนที่เขาจะลบโพสต์ดังกล่าวออกไปในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา แต่ระหว่างนั้น โพสต์ดังกล่าวมียอดชม การโพสต์ต่อ และแสดงความรู้สึกถึง 11 ล้านครั้ง และดันให้มีผู้ติดตามบัญชี WarMonitors เพิ่มขึ้นเกือบถึง 750,000 ราย

ในวันที่ 9 ตุลาคม ทีมด้านความปลอดภัยของสื่อสังคมออนไลน์ X ออกแถลงการณ์ว่าได้ปรับปรุงนโยบายของแพลตฟอร์ม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของบัญชีผู้ใช้ “ในพื้นที่ความขัดแย้ง” และมีโพสต์มากกว่า 50 ล้านโพสต์ต่อวันที่เกี่ยวข้องกับ “การโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส”

ทางสื่อสังคมออนไลน์ X ระบุว่า ในช่วง “วิกฤต” ต้องการ “การตอบสนองในระดับสูงสุด” และบัญชีหลายร้อยบัญชีถูกถอดออก เนื่องจาก “พยายามควบคุมเนื้อหายอดนิยม” และย้ำว่าการจัดเรตติ้งเนื้อหาที่ได้รับความนิยมของ X จะเป็นแบบเรียลไทม์และใช้เครื่องมือในการจัดการ “การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน”

อย่างไรก็ตาม บัญชี WarMonitors ยังคงเป็นบัญชีที่ได้รับการรับรองจาก X และยังเดินหน้าเผยแพร่เนื้อหาที่สร้างความสงสัยต่อไป

ข้อมูลจากนิตยสารเดอะ ไวร์ รายงานเมื่อ 9 ตุลาคมว่า ปริมาณของข้อมูลเท็จ “ที่มุ่งเป้าควบคุมการเล่าเรื่อง” เกี่ยวกับการโจมตีโดยกลุ่มฮามาสและการตอบโต้ของอิสราเอลอยู่ในระดับที่ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะบนสื่อสังคมออนไลน์ X”

เมื่อหันกลับมาดู 3 ประเทศที่มีท่าทีสนับสนุนกลุ่มฮามาส ได้ใช้กลยุทธ์ในการพยายามควบคุมการเล่าเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ โดยอิหร่านยังคงแสดงจุดยืนว่า “ไม่มีความเกี่ยวข้อง” ในขณะที่จีนและรัสเซียอ้างว่ามีจุดยืน “เป็นกลาง” แต่อีกด้านหนึ่งกลับผลักดันเรื่องราวที่ตอบสนองผลประโยชน์ของตน

ฝั่งอิหร่าน ได้ใช้วิกฤตสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในการทำให้ผู้นำประเทศมุสลิมที่ดูจะเห็นอกเห็นใจอิสราเอลและตะวันตกเกิดความอับอาย ขณะที่จีนมุ่งเน้นการฉายภาพของสหรัฐฯ ว่าเป็นตัวร้ายในเรื่องนี้ ส่วนรัสเซียมุ่งเป้าไปยังสหรัฐฯ และยูเครน ด้วยการใช้ข้อมูลเท็จที่ออกแบบมาเพื่อให้ชาติตะวันตกลดการสนับสนุนยูเครน

Polygraph จับกระแสการเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส ใน 3 ประเทศและมีข้อสรุปดังนี้

อิหร่าน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม สถานีโทรทัศน์ PressTV ทำรายงานที่พาดหัวข่าวว่า “ผู้นำอิหร่านซัด: อิสราเอลเตรียมรับ ‘แรงโต้กลับที่หนักขึ้น’ จากการสังหารหมู่ในกาซ่า”

รายงานดังกล่าวได้ระบุถึงคำกล่าวของผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ที่กล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาของนักเรียนนายร้อย ณ Imam Ali Army Officer University ในกรุงเตหะราน ช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคมว่า

"เหตุการณ์ในวันที่ 7 ตุลาคม ระบอบไซออนนิสต์ที่ช่วงชิงอำนาจมาประสบกับความพ่ายแพ้ทั้งด้านการทหารและด้านข่าวกรอง แต่ขอเน้นย้ำถึงสิ่งที่ไม่อาจซ่อมแซมได้ ที่ว่าแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายนี้ได้ทำลายโครงสร้างสำคัญของการปกครองระบอบไซออนนิสต์ที่ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้โดยง่าย”

ทางสื่อเดอะวอลสตรีทเจอร์นัล รายงานประเด็นที่ว่าอิหร่านได้ช่วยวางแผนการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่อิหร่านปฏิเสธมาโดยตลอดเรื่องความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีดังกล่าว

จนถึงขณะนี้ ผู้สังเกตการณ์บางส่วนเห็นว่าอิหร่านได้ใช้การโจมตีครั้งใหญ่เมื่อวันเสาร์เป็นเครื่องมือในการบั่นทอนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบียและชาติอาหรับอื่น ๆ ให้เป็นปกติ อย่างในรายงานของรอยเตอร์ เมื่อ 8 ตุลาคม หัวหน้ากลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ กล่าวกับสื่ออัลจาซีราห์ว่า "ข้อตกลงทั้งหมดในการฟื้นสัมพันธ์ให้เป็นปกติที่คุณ(ชาติอาหรับ)ลงนามกับ(อิสราเอล)จะไม่ยุติความขัดแย้งนี้"

ในวันที่ 9 ตุลาคม รายงานจากเว็บไซต์โพลิติโก ระบุถึงโฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล พันตรี เนียร์ ดินาร์ ที่ว่า “[เรา] ไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใด ๆ” ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ได้เสริมว่า “เรามั่นใจ 100% ว่าชาวอิหร่านไม่รู้สึกประหลาดใจ เพียงเพราะว่าคุณไม่มีหลักฐาน นั่นไม่จำเป็นต้องแปลความว่าอิหร่านไม่ได้อยู่เบื้องหลัง”

จีน

นับตั้งแต่เหตุโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ทางการจีนปฏิเสธที่จะประณามกลุ่มฮามาส ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งไม่ได้ระบุว่าฮามาสเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ได้ประณามทั้งสองฝ่ายในการโจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดระดับความขัดแย้ง

ยุน ซุน ผู้อำนวยการโครงการจีนแห่งศูนย์สติมสัน (Stimson Center) สถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตันกล่าวกับรอยเตอร์ว่า การประณามกลุ่มฮามาสอาจทำให้จีนมีความขัดแย้งกับประเทศหุ้นส่วนอย่างอิหร่านและรัสเซีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส

“สำหรับจีน การประณามการโจมตียังให้ความหมายว่าจีนจะต้องกระทำการบางอย่างหากมีการเปิดเผยชื่อของผู้ก่อเหตุขึ้นมา” ผู้อำนวยการโครงการจีนแห่งศูนย์สติมสันกล่าว

บอนนี เกลเซอร์ ผู้อำนวยการโครงการอินโด-แปซิฟิก แห่ง German Marshall Fund of the United States กล่าวกับวีโอเอว่า จีนอาจ “หลีกเลี่ยงการตำหนิ แต่อาจจะแค่เรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง” อย่างที่ได้ทำ “ในกรณีรัสเซียบุกยูเครน” เพื่อรักษาสัมพันธ์กับทั้งอิสราเอลและทางการปาเลสไตน์

รัฐบาลกรุงปักกิ่งซึ่งสนับสนุนรัฐปาเลสไตน์ ที่นิยามตามพรมแดนเมื่อปี 1967 ยังคงจุดยืนที่ว่า “การสถาปนารัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ” ถือเป็น “หนทางพื้นฐานในการยุติความขัดแย้ง”

แต่ยูวาล วัคส์ เจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งสถานทูตอิสราเอลในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า มันยังไม่ถึงเวลาที่จะเรียกร้องแนวทางสองรัฐ “เมื่อผู้คนถูกสังหาร เข่นฆ่ากลางถนนเช่นนี้”

ระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง สว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ แสดงความผิดหวังว่ารัฐบาลปักกิ่ง “ไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจหรือสนับสนุนชาวอิสราเอลในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”

เพื่อตอบโต้เรื่องนี้ สื่อทางการจีน กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้ง หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลวอชิงตัน “สนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลอย่างชัดเจน” และมีการสนับสนุนอิสราเอลที่ "เพิ่มขึ้นอย่างมาก" รวมทั้งศักยภาพการป้องกันตนเองทางอากาศและอาวุธต่าง ๆ

บทบรรณาธิการ 2 ชิ้นในหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ หยิบความเห็นของนิกกี เฮลีย์ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เพื่อกล่าวหา “สหรัฐฯ และชาติตะวันตกหลายประเทศ” ในการ “ราดน้ำมันบนกองไฟ” ด้วยเหตุนี้ยังทำให้สหรัฐฯ “ให้กลายเป็นศัตรูแห่งสันติภาพโลก”

ในจดหมายที่ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เฮลีย์กล่าวว่า “ฮามาสได้ก่อเหตุนี้ คุณรู้ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง จัดการพวกเขาเสีย พวกเขาควรต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำไป”

จีนกล่าวหาสหรัฐฯ หลายต่อหลายครั้งในการ “เติมเชื้อไฟในสถานการณ์ยูเครน” ด้วยการจัดหาอาวุธให้รัฐบาลกรุงเคียฟเพื่อปกป้องตนเองต่อการรุกรานของรัสเซีย ขณะที่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนรัสเซียส่งทหารบุกยูเครน เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022 รัฐบาลปักกิ่งได้ประกาศความเป็นหุ้นส่วน “แบบไร้ขีดจำกัด” กับรัฐบาลมอสโก

รัสเซีย

เจ้าหน้าที่และสื่อรัสเซีย อ้างว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้แก่ยูเครนมาใช้โจมตีอิสราเอล

สื่อรัฐบาลรัสเซียอาร์ไอเอ โนวอสติ ระบุถึงข้อความของ แยน กากิ้น ที่ปรึกษาของผู้บริหารสาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์ ซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัสเซียที่ว่า “น่าแปลกที่เป็นเพราะอิสราเอล ร่วมกับพันธมิตรจากนาโต้ ส่งอาวุธหลากหลายประเภทให้แก่ยูเครน ซึ่งถูกขายต่อโดยเจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนไปยังกลุ่มก่อการร้ายต่าง ๆ ทั่วโลก ในปริมาณที่มหาศาลและไม่สามารถควบคุมได้ ตอนนี้อิสราเอลกำลังถูกยิงด้วยอาวุธของพวกเขาเอง” โดยที่ไม่ได้เปิดเผยแหล่งข้อมูล

อีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์อิซเวสเชีย เผนแพร่บทความโดยไร้หลักฐานที่ว่ากองกำลังติดอาวุธฮามาสใช้อาวุธอเมริกันที่ตั้งใจจะส่งให้กับยูเครน

นักการเมืองรัสเซียหลายรายได้อ้างว่าอาวุธที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครน ถูกส่งไปยังกลุ่มฮามาสหรือประเทศอื่นอย่างผิดกฎหมาย

อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์เทเลแกรมว่า “เอาล่ะ เพื่อนผองนาโต้ เล่นเกมจบหรือยัง? อาวุธที่ส่งไปยังระบอบนีโอนาซีในยูเครนกำลังถูกใช้ในอิสราเอล ยิ่งไปกว่านั้น เหมือนกับอาวุธที่ทิ้งไว้โดยอเมริกันในอัฟกานิสถาน พวกเขาใช้อย่างไร้การควบคุมในพิกัดสำคัญทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่ยูเครนอันฉ้อฉลยอมแลกทุกอย่างที่ได้รับ พวกเขาขโมยน้ำมัน อาหาร สิ่งของ พวกเขาขโมยทุกอย่างซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แย่มาก มันยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าจรวด รถถัง และเครื่องบินจากกรุงเคียฟคงได้ไปอยู่ในตลาดมืดแน่ ๆ ”

ด้านดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลทำเนียบเครมลิน กล่าวว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรอข้อสรุปจากหน่วยข่าวกรองอิสราเอลถึงต้นตอของอาวุธที่ใช้ในความขัดแย้งฮามาส-อิสราเอล แต่ได้เสริมว่า “มันเห็นได้ชัดเจนว่าอาวุธนับแสนตันที่ชาติตะวันตกส่งให้ยูเครนไม่ได้อยู่ที่นั่นทั้งหมด บางส่วนถูกขายไปโดยนักค้าอาวุธทั่วโลก ทำให้ประเทศ และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกตกอยู่ในอันตราย นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจดี”

แม้จะมีข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ส่งไปยูเครนถูกขายในตลาดมืด แต่อาวุธทั้งหมดที่ยูเครนได้รับสามารถติดตามเส้นทางได้ รายงานจากบิสซิเนส อินไซเดอร์เผยว่า ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ยูเครนได้ทำฐานข้อมูลอาวุธที่ได้รับ เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางอาวุธได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนแรกของสงคราม ระบบดังกล่าวยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นมา และมีรายงานการถูกขโมยไปหลายครั้ง

ในเดือนกรกฎาคม 2022 การสัมภาษณ์กับสื่อเยรูซาเล็ม โพสต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า “มีความกลัวว่าระบบ(อาวุธ)ที่เราส่งให้ยูเครนจะถูกใช้โจมตีเรา เนื่องจากมันอาจตกอยู่ในมือของอิหร่าน และนี่ไม่ใช่ความเป็นไปได้ทางทฤษฎี นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับอาวุธต่อต้านรถถังตะวันตกที่เราเจอบริเวณพรมแดนของเรา ดังนั้นเราต้องระมัดระวัง” แต่ผู้นำอิสราเอลไม่ได้ระบุว่าระบบต่อต้านรถถังที่ว่าไปอยู่ในตะวันออกกลางได้อย่างไร

This X screenshoot, taken on October 10, 2023, shows a tweet from the Ukrainian Ministry of Defense refuting disinformation put out by Russia regarding the Hamas attack on Israel.

เว็บไซต์อาร์บีเค-ยูเครนา ของยูเครน อ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองยูเครนที่รายงานเมื่อ 9 ตุลาคมว่ารัสเซียส่งอาวุธของชาติตะวันตกที่ยึดมาได้ระหว่างการสู้รบกับยูเครนให้กับกลุ่มฮามาส และเตรียมแผนการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ยูเครนครั้งใหญ่ในเรื่องนี้ และว่า “ตามแผนของรัสเซีย ขั้นต่อไปคือการกล่าวหากองทัพยูเครนว่าขายอาวุธให้ผู้ก่อการร้ายเป็นประจำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานข้อมูลข่าวปลอมของรัฐบาลทำเนียบเครมลิน”

ในเชชเนีย ผู้ว่าการรามัน คาดิรอฟ ที่รัสเซียแต่งตั้ง เรียกร้องให้ “ผู้นำชาติมุสลิมทั้งหมด” สนับสนุนปาเลสไตน์ และเสนอการจัดส่งอาวุธด้านการทหารเพื่อ “ภารกิจด้านสันติภาพ” หลังจากถ้อยแถลงดังกล่าว เพสคอฟ รัสเซียยังคงรักษา “ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์กับปาเลสไตน์” และยังมี “ความสัมพันธ์กับอิสราเอล”

  • ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ