การตัดสินใจถอนตัวจากการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในศึกเลือกตั้งปี 2024 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังเผชิญกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับปมด้านอายุ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอเมริกันวัยหนุ่มสาวให้ความใส่ใจ และมีแนวคิดที่แตกต่างในเรื่องนี้
ในการสำรวจของ NPR/PBS News/Marist poll ในเดือนกรกฎาคม ชี้ว่า เกือบ 2 ใน 3 ของชาวอเมริกัน เชื่อว่าไบเดน ไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจที่จำเป็นต่อการเป็นประธานาธิบดี แม้ว่าจะไบเดนจะได้คะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นในการสำรวจความเห็นชาวอเมริกันตั้งแต่การดีเบตนัดแรกกับทรัมป์ก็ตามที
เฮนรี มีลาร์ซิค นักศึกษาจาก Bard College ในนิวยอร์ก และคณะกรรมาธิการของเดโมแครตในเขตปกครองมอร์ริสเคาน์ตี ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ บอกกับวีโอเอว่าอายุของไบเดนเป็น “จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุด” แต่ยังเชื่อว่าเรื่องอายุก็เป็นประเด็นปัญหาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 78 ปีเช่นกัน
อุตคาร์ช จาอิน นักศึกษาจาก University of California วิทยาเขตเบิร์กลีย์ ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรนักศึกษา Berkeley College Republicans กล่าวกับวีโอเอว่าอายุของไบเดนไม่ได้เป็นปัญหาหากเขาสามารถแสดงให้เห็นว่าเขามีสติพร้อมสำหรับการทำงานนี้ ในระหว่างที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ยังสามารถแสดงให้เห็นความสามารถดังกล่าวได้
จาอิน เชื่อว่าชายอเมริกันอายุน้อยจำนวนมากหันมาสนับสนุนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะมองว่าทรัมป์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพวกเขา และว่า “คนหนุ่มมากมายหันมาสนับสนุนทรัมป์เพราะเขาเป็นตัวอย่างของสิ่งที่พวกเขาอยากเป็น พวกเขาอยากประสบความสำเร็จเหมือนกับเขา”
ในการสำรวจของ Pew Research เมื่อเดือนมิถุนายน ชี้ว่า 40% ของชายอเมริกันอายุต่ำกว่า 50 ปี ที่สนับสนุนทรัมป์ เชื่อว่า ผลประโยชน์ทางสังคมของผู้หญิงต้องแลกมาด้วยการสูญเสียของผู้ชาย
ด้านมีลาร์ซิค เชื่อว่า คามาลา แฮร์ริส ที่ได้รับการสนับสนุนจากไบเดนหลังเขาประกาศถอนตัวจากศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนรุ่นใหม่จะเคลื่อนไหวสนับสนุนเธอ โดยบอกกับวีโอเอว่า “คามาลา แฮร์ริสอายุน้อยกว่าและมีพลังมากกว่า และคิดว่านอกจากจะแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าสำหรับประเทศแล้ว ยังได้สะท้อนวิสัยทัศน์ของชาวอเมริกันทุกคน ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของประธานาธิบดี”
ด้านวิลเลียม ฮาเวลล์ อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จาก University of Chicago ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า ความกังวลเรื่องอายุของผู้นำสหรัฐฯ ในตอนนี้ได้กลายเป็นประเด็นปัญหาที่ย้อนกลับไปทางพรรครีพับลิกันแล้ว โดยกล่าวว่า “ตัวแทนใหม่จากฝั่งเดโมแครตไม่ได้มีประเด็นข้อบกพร่องเหมือนที่ไบเดนมี ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวแทนเดโมแครตรายนี้จะไม่ลงเลือกตั้งในช่วงอายุ 81 ปี และจุดอ่อนดังกล่าวกำลังกลายเป็นประเด็นสำหรับทรัมป์”
ทีมหาเสียงของคามาลา แฮร์ริส ระบุว่าได้รับเงินบริจาคสนับสนุนมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่การถอนตัวของไบเดน และมีการระดมทุนทำสถิติสูงสุด 81 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ แคมเปญหาเสียงได้ดึงดูดโหวตเตอร์หนุ่มสาว ผ่านมีมและเทรนด์อินเตอร์เน็ตต่าง ๆ บนแอปพลิเคชันติ๊กตอก และเธอได้รับการสนับสนุนจากบรรดาบุคคลผู้มีชื่อเสียง อาทิ ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ จอห์น เลเจนด์ และจอร์จ คลูนีย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ฮาเวลล์ เห็นว่า แทนที่พรรคเดโมแครตจะเดินหน้าสนับสนุนแฮร์ริสอย่างรวดเร็วหลังการประกาศถอนตัวของไบเดน ทางพรรคควรเฟ้นหาตัวเลือกอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทางพรรคในระยะยาว
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันกว่า 40 ล้านคนอยู่ในกลุ่ม Gen-Z เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ในศึกเลือกตั้งปี 2024 นี้ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีอิทธิพลในการกำหนดชะตาของผู้ที่จะก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวด้วยเช่นกัน
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น