ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จะเกิดอะไรต่อไป? เมื่อไบเดนตัดสินใจถอนตัวแข่งประธานาธิบดี


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินกลับเข้าไปหลังม่านหลังจบการปราศรัยที่รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2024
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินกลับเข้าไปหลังม่านหลังจบการปราศรัยที่รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2024

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 3 เดือนกว่าก่อนจะถึงวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน

เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามมากมายต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งต่อจากนี้ โดยเฉพาะทางฝั่งพรรคเดโมแครต

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สละสิทธิ์จากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หมายถึงการปลดปล่อยบรรดา 'ผู้แทนการลงคะแนนเสียง' ที่ไบเดนได้รับมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ให้เป็นอิสระและมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกผู้สมัครคนใดก็ได้ในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคมนี้ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยล์

หลังจากที่ประกาศถอนตัว ปธน.ไบเดน ได้กล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X สนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทนตน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ผู้แทนการลงคะแนนเสียงของไบเดนซึ่งมีจำนวน 3,896 คน อาจเทคะแนนให้กับรองปธน.แฮร์ริส เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จอห์น ซี ฟอร์เทียร์ นักวิชาการแห่งสถาบัน American Enterprise กล่าวกับวีโอเอว่า ผู้แทนฯ เหล่านั้นไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายให้ต้องลงคะแนนให้กับไบเดนหรือแฮร์ริส นั่นหมายความว่าพากเขาอาจเปลี่ยนใจไปลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสมกว่าได้ตามกฎของพรรคเดโมแครต

ใครมีโอกาสจะมาแทนไบเดน?

เอเลน คามาร์ก นักวิชาการแห่งสถาบันคลังสมอง Brookings และหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต เชื่อว่า รองปธน.แฮร์ริส ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตอนนี้ และเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุด

ในฐานะสตรีผิวสี แฮร์ริสจะสามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งต่อคะแนนเสียงจากชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของเดโมแครตได้

อย่างไรก็ตาม คามาร์กชี้ว่า ตัวแฮร์ริสเองนั้นมีคะแนนนิยมไม่สูงนักในหมู่ประชาชนอเมริกัน โดยผลสำรวจล่าสุดของ AP-NORC Center for Public Affairs Research ชี้ว่า ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 58% มองว่า แฮร์ริสจะเป็น 'ประธานาธิบดีที่ดี' ขณะที่มีประชาชนทั่วไปราว 30% เท่านั้นที่คิดแบบเดียวกัน

นอกจากแฮร์ริสแล้ว ชื่อที่ถูกพูดถึงว่าอยู่ในข่ายผู้ที่มีโอกาสมาแทนไบเดน คือ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย, แอนดี บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนตักกี และ เจบี พริสต์ซเกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยล์ ซึ่งก่อนหน้านี้ล้วนเป็นผู้ออกมาสนับสนุนการลงสมัครของปธน.ไบเดน เช่นกัน

นักวิชาการเอเลน คามาร์ก ชี้ว่า เดโมแครตควรหลีกเลี่ยงการสืบทอดตำแหน่งโดยอัตโนมัติจากไบเดนสู่แฮร์ริส หากว่ามีผู้สมัครคนอื่นร่วมลงแข่งขันด้วยหลังจากนี้ แต่ควรจัดให้มีกระบวนการในการคัดเลือกไม่ว่าจะก่อนหรือระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อให้ผู้ลงสมัครสามารถขอคะแนนเสียงจากบรรดาผู้แทนได้

ด้าน ลาร์รี ซาบาโต แห่งศูนย์การเมือง มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวอร์จิเนีย (University of Virginia) กล่าวกับวีโอเอว่า พรรคเดโมแครตจำเป็นต้องเร่งหาคนที่จะมาแทนไบเดนในทันที และต้องเป็นคนที่มีโอกาสจะชนะโดนัลด์ ทรัมป์ ในเวลาอันสั้นด้วย

กระบวนการเลือกตัวแทนพรรคจะทำอย่างไร?

ข้อมูลจาก Ballotpedia ชี้ว่า ปีนี้พรรคเดโมแครตมี 'ผู้แทนการลงคะแนนเสียง' ทั้งหมด 4,672 คน แบ่งเป็นผู้แทนทั่วไป 3,933 คน และผู้แทนพิเศษ หรือ superdelegates ซึ่งหมายถึงสมาชิกระดับสูงของพรรค 739 คน

ผู้ที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต้องได้จำนวนผู้แทนเกินครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากไม่มีผู้สมัครคนใดทำได้ ผู้แทนเหล่านั้นจะมีอิสระในการออกเสียงให้กับผู้สมัครคนใดก็ได้ในการประชุมใหญ่ของพรรค โดยจะเรียกว่าการลงคะแนนในลักษณะนี้ว่า brokered convention

ครั้งสุดท้ายที่พรรคเดโมแครตมี brokered convention คือปี 1952

สำหรับการประชุมใหญ่ของเดโมแครตในเดือนหน้า หากมีผู้เสนอชื่อผู้ลงสมัครคนอื่นนอกเหนือจากรองปธน.แฮร์ริส อาจนำไปสู่การแข่งขันกันภายในพรรคระหว่างการประชุมดังกล่าว

เอเลน คามาร์ก แห่งสถาบัน Brookings เชื่อว่า พรรคเดโมแครตจำเป็นต้องเลี่ยงการแข่งขันแย่งตำแหน่งตัวแทนพรรคแทนไบเดน เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความแบ่งแยกและวุ่นวาย ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวเท่านั้นก่อนการประชุมใหญ่

ประเด็นอื่นที่น่าจับตามองหลังจากนี้?

ช่วงที่ผ่านมา การรณรงค์หาเสียงคู่กันระหว่างประธานาธิบดีไบเดน และรองปธน.แฮร์ริส สามารถระดมเงินทุนได้ถึง 91 ล้านดอลลาร์ตามรายงานเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งตามกฎแล้ว แฮร์ริสสามารถใช้เงินส่วนนี้ในการหาเสียงต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่า เงินดังกล่าวยังไม่สามารถถ่ายโอนไปยังคณะหาเสียงของแฮร์ริสได้โดยอัตโนมัติ เนื่องจากไบเดนยังมิได้ผ่านการรับรองเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการ

อีกประการหนึ่งที่ต้องจับตามองคือ หากแฮรริสได้รับการรับรองให้เป็นตัวแทนพรรคแทนไบเดนในการประชุมใหญ่ของเดโมแครตเดือนหน้า ใครทีจะมาจับคู่กับเธอในฐานะคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องนี้อาจนำไปสู่ความแบ่งแยกของพรรคได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

และนั่นยิ่งทำให้ภาพของเดโมแครตในขณะนี้ดูสับสนวุ่นวายอย่างมาก ขณะที่เหลือเวลาก่อนการเลือกตั้งอีกเพียง 3 เดือนกว่า ๆ เท่านั้นเอง

  • ที่มา: ห้องข่าววีโอเอ และรอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG