กองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ฉนวนกาซ่าในวันพฤหัสบดี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวจะเดินทางถึงเพื่อหารือแผนงานเฟสต่อไปในสงครามอิสราเอล-ฮามาสและถกประเด็นการคุ้มครองพลเรือนชาวปาเลสไตน์
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาสภาความมั่นคง มีแผนจะใช้เวทีหารือกับอิสราเอลในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ “ความพยายามให้มีความแม่นยำ เที่ยงตรงและรวดเร็วมากขึ้น” ในปฏิบัติการทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่
เคอร์บี ระบุว่า “นั่นคือเป้าหมายของเรา และฝ่ายอิสราเอลกล่าวว่า มันก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาด้วย แต่ผลลัพธ์ต่างหากที่เป็นเรื่องซึ่งมีความสำคัญ”
รายงานข่าวระบุว่า ซัลลิแวนมีแผนที่จะหารือคำร้องขอของสหรัฐฯ ให้อิสราเอลยอมเปิดทางให้มีการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมข้ามจุดผ่านแดน ‘เคเรม ชาลอม’ เข้าไปยังกาซ่า ซึ่งจะเป็นช่องทางเสริม นอกจากเส้นทางผ่านแดนราฟาห์ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
ในสัปดาห์นี้ อิสราเอลเพิ่งเริ่มทำการตรวจสอบขบวนขนส่งความช่วยเหลือที่ เคเรม ชาลอม แต่การขนส่งนั้นยังคงต้องทำผ่านราฟาห์อยู่เหมือนเดิม
แต่ก่อนจะเดินทางถึงอิสราเอล ซัลลิแวน แวะที่ซาอุดีอาระเบียเพื่อหารือ “ความพยายามสร้างเงื่อนไขใหม่ ๆ สำหรับการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและคงทนถาวรระหว่างชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์” และเพื่อถกการเพิ่มการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซ่ากับมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ด้วย
แม้สหรัฐฯ จะยังยืนยันการสนับสนุนอิสราเอลและปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้การโจมตีของฮามาสเมื่อต้นเดือนตุลาคม ประธานาธิบดีโจ ไบเดนและเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ รายอื่น ๆ เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในฉนวนกาซ่าแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่ควบคุมโดยกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 18,600 คนเสียชีวิตลงหลังความรุนแรงรอบใหม่ปะทุขึ้น โดยราว 70% ของเหยื่อกลุ่มนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ นักรบของกลุ่มฮามาสเข่นฆ่าผู้คนไปราว 1,200 คนและจับตัวประกันไว้กว่า 200 คนในการโจมตีรุนแรงใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่า “การสนับสนุนของเราต่ออิสราเอลไม่ได้ลดลงเลย แต่เราก็มีความกังวลอยู่และเราก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อแผนการทางทหารนี้ โดยเราเชื่อว่า กลุ่มฮามาสที่เริ่มต้นทุกอย่างขึ้นก่อน และเป็นฮามาสที่ยังเดินหน้าทำการต่าง ๆ”
ขณะเดียวกัน อิสราเอลออกโรงแก้ต่างปกป้องวิธีการรบของตนและกล่าวว่า กองทัพของตนได้ดำเนินตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การบาดเจ็บและเสียชีวิตของพลเรือนเกิดขึ้นน้อยที่สุด ด้วยการสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ที่ตนมีแผนจะดำเนินปฏิบัติการทางทหาร เป็นต้น โดยอิสราเอลกล่าวโทษฝ่ายฮามาสว่า จงใจใช้พื้นที่ที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมากเป็นฐานปฏิบัติการของตน
หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของยูเอ็นในปาเลสไตน์กล่าวว่า ประชาชนเกือบ 1.9 ล้านคน หรือราว 85% ของประชากรในกาซ่า ถูกบีบให้ต้องลี้ภัยออกจากบ้านเรือนของตน ขณะที่ ประชาชนกว่า 1.1 ล้านคนได้ลงทะเบียนที่ค่ายผู้อพยพของทางหน่วยงานในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของกาซ่าแล้ว พร้อมชี้ว่า ในเวลานี้ ค่ายผู้อพยพแต่ละแห่งรับผู้คนมามากกว่าความสามารถรับรองผู้ลี้ภัยถึง 9 เท่าแล้วด้วย
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
กระดานความเห็น