กองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส ปะทะเดือดเพื่อแย่งชิงการควบคุมเมืองคาน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซ่า เมืองใหญ่อันดับ 2 ในกาซ่า ระหว่างที่พลเรือนปาเลสไตน์เผชิญกับความยากลำบากในการหาที่พักพิงและเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มมากขึ้น
กองทัพอิสราเอลเผยในวันพุธว่าได้โจมตีทางอากาศเป้าหมาย 250 จุดในฉนวนกาซ่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ด้านกลุ่มฮามาส ระบุว่าได้สังหารทหารอิสราเอล 10 นาย ในคาน ยูนิส และทำให้ทหารอิสราเอลบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่สามารถยืนยันได้
ทางสหประชาชาติรายงานการระดมโจมตีกาซ่าอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ขณะที่กลุ่มฮามาสระดมโจมตีด้วยจรวดเข้าใส่เป้าหมายอิสราเอลเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ทางการอิสราเอล เตือนพลเมืองในกาซ่าไม่ให้เข้าถึงถนนซาลาห์ อัล-ดิน ซึ่งเป็นถนนหลวงสายหลักที่เชื่อมต่อคาน ยูนิส ไปยังตอนเหนือกาซ่า โดยบอกว่าเป็นพื้นที่ “สนามรบ” และ “อันตรายอย่างยิ่ง” และสั่งอพยพผู้คนกว่า 600,000 ชีวิตจากพื้นที่การสู้รบ
ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่านับแสนชีวิตยังคงอพยพไปยังพื้นที่ทางตะวันตกและตอนใต้ของคาน ยูนิส รวมทั้งเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนอียิปต์ แต่สหประชาชาติระบุว่าศูนย์พักพิงไม่เพียงพอสำหรับผู้อพยพ ทำให้พวกเขาต้องนอนค้างอ้างแรมกันตามท้องถนน และเมื่อค่ำวันอังคาร สหประชาชาติระบุว่าเมืองราฟาห์เป็นพิกัดเดียวในกาซ่าที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังมีอยู่
อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีตุรกี เรจิบ เทยิป เออร์โดวาน ได้ปฏิเสธข้อเสนอของอิสราเอลเรื่องเขตกันชนหลังสงครามในกาซ่า เพื่อป้องกันการโจมตีอิสราเอลในอนาคต ซึ่งอิสราเอลได้เสนอเรื่องนี้ต่อหลายประเทศ ที่มีแผนการสร้างเขตกันชนในดินแดนปาเลสไตน์บริเวณพรมแดนกาซ่า ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ส่วนของอิสราเอลแต่อย่างใด
สื่อตุรกีอ้างอิงถ้อยแถลงของปธน.เออร์โดวานว่า อนาคตของกาซ่าควรให้ชาวปาเลสไตน์เป็นผู้ตัดสิน
ทางโฆษกด้านความมั่นคงของรัฐบาลสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี กล่าวว่าสหรัฐฯ คัดค้านแนวคิดดังกล่าว โดยระบุว่า “เราไม่สนับสนุนการลดขีดจำกัดทางภูมิศาสตร์ของฉนวนกาซ่า” และว่า “ฉนวนกาซ่าจะต้องยังคงเป็นดินแดนปาเลสไตน์และไม่สามารถลดลงได้”
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
กระดานความเห็น