ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เปิดเผยในวันจันทร์ว่า ได้เดินทางไปยังบริเวณแนวหน้าของการรบทางเหนือของเขตปกครองคาร์คิฟซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนของรัสเซียที่กองทัพมอสโกพยายามเดินหน้าฝ่าเข้ามาให้ได้อยู่
กองทหารรัสเซียเปิดแนวหน้าการรบจุดใหม่ที่ทางเหนือของยูเครนเมื่อเดือนพฤษภาคมและรุกคืบเข้ามาได้เป็นระยะทางถึง 10 กิโลเมตร ก่อนที่กองทัพยูเครนจะสะกัดการบุกไว้ได้
เซเลนสกีระบุในโพสต์ทางแอปเอ็กซ์ (X) ว่า “(อยู่ที่)แนวหน้าการรบคาร์คิฟ ที่ตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของกองทัพยูเครน ในพื้นที่เมืองวอฟแชนสก์” ประกอบภาพขณะร่วมพิธีมอบรางวัลให้กับทหารด้วย
ขณะเดียวกัน สำนักงานเสนาธิการทหารยูเครนรายงานว่า รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีทางอากาศเข้าใส่บริเวณชายแดนของเขตปกครองดังกล่าว และระบุด้วยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น กองกำลังกรุงเคียฟได้ผลักดันการโจมตีของรัสเซียกลับออกได้ถึง 6 ครั้ง
อย่างไรก็ดี กำลังพลของยูเครนในเขตปกครองคาร์คิฟนั้นมีน้อยกว่าฝ่ายรัสเซียที่พยายามรุกคืบเข้ามาไม่น้อย จนทำให้กรุงเคียฟต้องส่งกำลังเสริมไปหนุนทัพ ก่อนจะพยายามล็อบบี้ให้พันธมิตรต่าง ๆ อนุญาตให้ตนใช้อาวุธที่ได้รับมอบจากชาติตะวันตกในการโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปยังฝั่งรัสเซีย ซึ่งช่วยสกัดการรุกคืบของกองทัพมอสโกไปได้บ้าง
ในเวลานี้ กรุงเคียฟพยายามกดดันให้พันธมิตรทั้งหลายยกเลิกข้อจำกัดไม่ให้ใช้อาวุธที่ส่งมอบให้ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียเพื่อพุ่งเป้าจัดการตั้งทางทหารต่าง ๆ
การรุกคืบของรัสเซีย
กองกำลังรัสเซียกำลังพุ่งเป้าโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดเข้าไปยังเมืองโพครอฟสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางตะวันออกของประเทศ ตามการเปิดเผยของกรุงเคียฟในวันจันทร์
สำนักงานเสนาธิการทหารยูเครนระบุว่า การต่อสู้ที่โพครอฟสก์นั้นเป็นจุดที่ดุเดือดที่สุดในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ และว่า ยูเครนได้ผลักดันการโจมตีจากรัสเซียไปถึง 52 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้าด้วย
เมืองโพครอฟสก์นั้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่เคยมีประชากรอยู่ราว 61,000 คนก่อนเกิดสงครามยูเครน-รัสเซียเมื่อกว่า 2 ปีก่อน โดยตั้งอยู่บนเส้นทางหลักที่ทำหน้าที่ขนส่งเสบียงให้กับด่านหน้าต่าง ๆ ที่ยูเครนยังรักษาไว้ได้
ส่วนที่เขตปกครองดอแนตสก์นั้น ผู้ว่าการเขตปกครองนี้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนและมีได้รับบาดเจ็บ 3 คนจากการยิงถล่มด้วยปืนใหญ่โดยรัสเซียเข้าใส่เมืองทอเรตสก์ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีการต่อสู้อย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 และในเวลานี้ ได้ยึดครองพื้นที่เกือบ 1 ใน 5 ของยูเครนไว้ได้ โดยกองกำลังยูเครนได้ขับไล่ฝ่ายรัสเซียออกจากบริเวณชายเมืองกรุงเคียฟในช่วงต้นของสงครามนี้และสามารถยึดพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้กลับคืนมาได้บ้างในช่วงปลายปี 2022
แต่หลังจากนั้นมา การโจมตีโต้กลับในปี 2023 ก็ประสบความล้มเหลว และกองกำลังกรุงเคียฟกลับต้องมาเล่นบทรับเป็นหลักในปีนี้
- ที่มา: รอยเตอร์