จีนกล่าวหานาโต้ว่า กำลังใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตนเองและบอกกับกลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ว่า อย่านำพา “ความโกลาหลวุ่นวาย” มายังเอเชีย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาตอบโต้องค์การนาโต้ในวันพฤหัสบดี หลังกลุ่มพันธมิตรนี้ระบุว่า กรุงปักกิ่งนั้นเป็น “แนวร่วมที่เด็ดเดี่ยว” ของสงครามรัสเซียในยูเครน
หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในการแถลงข่าวประจำวันว่า “การที่นาโต้เอาแต่พูดถึงความรับผิดชอบของจีนต่อประเด็นยูเครนนั้นไม่มีเหตุผลเลย และมีแรงจูงใจที่ร้ายกาจ” พร้อมยืนยันว่า จีนมีจุดยืนที่เป็นจริงชัดเจนและเป็นธรรมในกรณีของยูเครน
การตอบโต้จากจีนนั้นเกิดขึ้น หลังการประชุมสุดยอดนาโต้ที่กรุงวอชิงตันออกแถลงการณ์ที่ชี้ว่า จีนกลายมาเป็นแนวร่วมของสงครามยูเครนด้วยการทำ “ความเป็นหุ้นส่วนไร้ขีดจำกัด” กับรัสเซีย และการสนับสนุนฐานอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซียด้วย
ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามในยูเครน และปฏิเสธที่จะประณามการที่รัสเซียบุกรุกประเทศเพื่อนบ้านหรือแม้แต่จะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นการรุกรานด้วยซ้ำ ขณะที่ ภาวะการค้าระหว่างจีนและรัสเซียก็ขยายตัวตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มต้นขึ้น โดยเอพีระบุว่า เป็นการขยายตัวที่อย่างน้อยก็ชดเชยส่วนที่เสียไปเพราะมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกได้บ้าง
โฆษกหลินกล่าวด้วยว่า การค้าของจีนกับรัสเซียนั้นชอบด้วยกฎหมาย สมเหตุสมผลและเป็นไปตามกฎขององค์การการค้าระหว่างประเทศ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่นาโต้เรียกว่าเป็น “ความมั่นคง” ของตนนั้นเกิดขึ้นได้โดยการเสียสละความมั่นคงของประเทศอื่น
ทั้งนี้ จีนสนับสนุนคำโต้แย้งของรัสเซียที่ว่า การขยายตัวของนาโต้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย แต่การที่มอสโกรุกรานยูเครนกลับยิ่งทำให้กลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ยิ่งแข่งแกร่งขึ้นและนำไปสู่การที่สวีเดนและฟินแลนด์เข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มอย่างเป็นทางการ
จีนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนาโต้และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกด้วย ขณะที่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ส่งผู้นำหรือรองผู้นำของตนมาร่วมการประชุมสุดยอดนาโต้ที่กรุงวอชิงตันด้วย
หลิน เจี้ยน กล่าวว่า “จีนร้องขอนาโต้ให้ ... หยุดแทรกแซงการเมืองภายในของจีนและ(หยุด)ป้ายสีภาพลักษณ์ของจีน และอย่าสร้างความโกลาหลในเอเชีย-แปซิฟิก หลังสร้างความปั่นป่วนในยุโรปไปแล้ว”
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น