ผู้นำโปแลนด์และยูเครนต่างให้คำมั่นในวันจันทร์ว่า จะจัดการกับประเด็นข้อพิพาททางการเมืองระหว่างสองประเทศที่เป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือเป็นพันธมิตรในช่วงที่ยังเกิดสงครามอยู่และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางกลาโหม ขณะที่ การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียนั้นกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 3 อยู่ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ในการเยือนยูเครนเป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ ส่งสารแห่งมิตรภาพจากประเทศเพื่อนบ้านให้กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี พร้อมกล่าวว่า ทั้งสองประเทศ “ได้บรรลุความเข้าใจร่วมกัน” เกี่ยวกับประเด็นการประท้วงของเกษตรกรและคนขับรถบรรทุกในโปแลนด์แล้วด้วย
ทัสก์ ยังระบุในระหว่างการร่วมแถลงข่าวที่กรุงเคียฟด้วยว่า “โปแลนด์จะทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้ชัยชนะของยูเครนในสงครามครั้งนี้”
รัฐบาลกรุงวอร์ซอกลายมาเป็นพันธมิตรหลักของกรุงเคียฟในช่วงที่ผ่านมา เมื่อยูเครนต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางการเงินและทางทหารจากชาติตะวันตกในการรับมือกับการรุกรานของรัสเซีย แต่ความสัมพันธ์ของสองประเทศเพื่อนบ้านตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว หลังเกิดการปิดกั้นที่พรมแดนของทั้งสองซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คนขับรถบรรทุกของโปแลนด์ตกลงที่จะยุติการประท้วงไม่ให้คนขับของฝั่งยูเครนขับข้ามมาฝั่งตนและเข้าไปในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต โดยบอกว่า จะระงับการประท้วงจนถึงวันที่ 1 มีนาคมนี้
นอกจากนั้น วอร์ซอและเคียฟยังมีปัญหากันในกรณีการส่งออกธัญพืชของยูเครนมายังโปแลนด์และประเทศอื่น ๆ ในอียูด้วย
และในระหว่างการแถลงข่าวกับนายกฯ โปแลนด์ นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล ประกาศ “รีเซ็ต” ความสัมพันธ์ของสองรัฐบาลแล้ว และว่า ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มทำการประชุมกันเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือของทั้งคู่ด้วย
นายกรัฐมนตรีชมีฮาลของยูเครนเปิดเผยว่า นับตั้งแต่สงครามครั้งนี้เกิดขึ้น กรุงเคียฟได้รับการสนับสนุนทางทหารจากวอร์ซอมาแล้วเป็นมูลค่าเกือบ 3,500 ล้านดอลลาร์
- ที่มา: รอยเตอร์