เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโปแลนด์และของสหภาพยุโรป (อียู) ร่วมหารือกันในวันจันทร์ เกี่ยวกับกระบวนการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้โครงการช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ ในการรับมือกับการรุกรานของรัสเซีย พร้อม ๆ กับการเติมเสบียงคลังอาวุธที่หดหายของยุโรปด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
การหารือดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่ เธียร์รี เบรตอง กรรมาธิการอียูด้านตลาดภายใน เดินทางเยือนโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ DEZAMET S.A. ในเมืองโนวา เดบา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ โดยมีนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาเทอูซ โมราเวียชกิ และรัฐมนตรีกลาโหมมาริอุซ บาสชาค เข้าร่วมด้วย หลังสหภาพยุโรปประกาศดำเนินโครงการชำระคืนเงินให้กับประเทศต่าง ๆ ที่นำส่งกระสุนและยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครน ผ่านกองทุนมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์
เบรตอง กล่าวว่า อียู “มุ่งมั่น” ที่จะเร่งทำการที่จำเป็น เมื่อพิจารณาแล้วว่า สถานการณ์ความขัดแย้งนี้น่าจะลากยาวออกไปอีกสักพัก พร้อม ๆ กับเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูอื่น ๆ นำส่งกระสุนให้ยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีโมราเวียชกิ กล่าวว่า ยุทโธปกรณ์คือสิ่งที่กองทัพยูเครนกำลังต้องการอย่างที่สุด โดยมีการประเมินว่า กรุงเคียฟน่าจะได้รับกระสุนราว 1 ล้านชุดภายในปลายปีนี้
นายกรัฐมนตรีโปแลนด์กล่าวด้วยว่า กองทัพยูเครนใช้กระสุนปืนใหญ่ถึงวันละ 6,000 ลูกในการรบ เทียบกับจำนวนกระสุนทุกประเภทที่รวมกันราว 50,000 ชุดที่รัสเซียใช้ในแต่ละวัน
ด้วยเหตุนี้ การหารือในวันจันทร์จึงเรียกร้องให้ยุโรปเร่งเพิ่มจำนวนกระสุนที่ตนผลิตและนำส่งเสบียงที่มีอยู่ให้ยูเครนโดยด่วน
ทั้งนี้ การเดินทางเยือนโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ของเจ้าหน้าที่อียูในครั้งนี้เกิดขึ้น ขณะที่ กองกำลังรัสเซียยังเดินหน้ายิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่บางส่วนของยูเครนที่กรุงเคียฟยังควบคุมไว้ได้ในเขตปกครองดอแนตสก์ ซึ่งส่งผลให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
- ที่มา: เอพี