จีนและสหรัฐฯ ตกลงเสริมความเข้มแข็งให้กับความสัมพันธ์ของสองประเทศเพื่อไม่ให้กลายไปเป็นความขัดแย้ง ระหว่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เยือนกรุงปักกิ่งและเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ประธานาธิบดีสี กล่าวยินดีต่อ "ความก้าวหน้า" ในการเจรจาของสองประเทศ หลังจากจับมือกับรัฐมนตรีบลิงเคนที่หอประชุมใหญ่ประชาชนจีนในวันจันทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มักใช้ต้อนรับแขกระดับผู้นำประเทศเท่านั้น
ทั้งประธานาธิบดีสีและรัฐมนตรีบลิงเคนต่างย้ำความสำคัญของการมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสองประเทศนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความชะงักงันต่อเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม จีนปฏิเสธที่จะทำตามข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้กลับมาเปิดช่องทางการสื่อสารทางทหารอีกครั้ง พร้อมอ้างว่ามาตรการลงโทษของสหรัฐฯ คืออุปสรรคในเรื่องนี้
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงรักษาจุดยืนของตนเองในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่ไต้หวันไปจนถึงการค้า รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ประเด็นสิทธิมนุษยชนและสงครามในยูเครน
ถึงกระนั้น ทั้งสองประเทศเห็นพ้องให้มีการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยคาดว่าจะมีการเยือนซึ่งกันและกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนจากนี้
มุ่งมองไปข้างหน้า
รัฐมนตรีบลิงเคน แถลงต่อผู้สื่อข่าวระหว่างการเยือนจีนครั้งแรกในรอบ 5 ปีว่า สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ในการเยือนจีนครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการชูประเด็นต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ เป็นกังวล ความพยายามจัดทำช่องทางการเจรจา และการสำรวจความร่วมมือในด้านต่าง ๆ แม้ว่าจะยังไม่มีความก้าวหน้าเกิดขึ้นทันทีก็ตาม
"ที่ผ่านมาความสัมพันธ์อยู่ในจุดที่ไม่มั่นคง ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักดีถึงความจำเป็นของการเสริมความเข้มแข็งนี้" บลิงเคนกล่าวก่อนเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง "แต่ความก้าวหน้าต้องใช้เวลาและไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการเยือนเพียงหนึ่งครั้งหรือการเจรจาเพียงครั้งเดียว ความคาดหวังก็คือเราจะมีการสื่อสารที่ดีขึ้น และร่วมมือกันมากขึ้นต่อไป"
ในการหารือครั้งนี้ ปธน.สี กล่าวกับบลิงเคนว่า "ทั้งสองฝ่ายสร้างความคืบหน้าและบรรลุข้อตกลงในบางประเด็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี" แต่มิได้ระบุว่าความคืบหน้าดังกล่าวคืออะไร นอกจากนี้ผู้นำจีนกล่าวด้วยว่า "จีนหวังจะเห็นความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงกับสหรัฐฯ และเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถเอาชนะปัญหายุ่งยากต่าง ๆ ได้"
ทั้งนี้ รัฐมนตรีบลิงเคนได้หยิบประเด็นไต้หวัน สิทธิมนุษยชน การยั่วยุของเกาหลีเหนือ ตลอดจนกิจกรรมด้านข่าวกรองของจีนในคิวบา ขึ้นมาพูดถึงระหว่างการเยือนจีนครั้งนี้ด้วย ตามการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หวังว่าการเยือนจีนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ครั้งนี้จะช่วยปูทางสู่การหารือทวิภาคีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศมากขึ้น และอาจรวมถึงการประชุมสุดยอดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในปีนี้ด้วย หลังจากที่ผู้นำทั้งสองพบกันครั้งล่าสุดที่การประชุมกลุ่ม จี20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
- ที่มา: รอยเตอร์