อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับฟังข้อกล่าวหาคดีอาญา 34 กระทงที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงข้อมูลทางธุรกิจโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ทางทีมทนายของอดีตปธน.ทรัมป์ ได้เริ่มต้นการต่อสู้คดีแล้ว ขณะที่คดีดังกล่าวเป็นก้าวแรกในการสืบสวนสอบสวนจำนวนมากที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ต้องเผชิญ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อตัวอดีตปธน.ทรัมป์ และอนาคตทางการเมืองของเขาด้วย
หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับฟังข้อกล่าวหาคดีอาญา 34 กระทงที่ศาลนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน หลายฝ่ายจับตาว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ จะหาทางแก้ต่างอย่างไรหลังจากถูกฟ้องไปแล้ว
ทว่าฝั่งทนายของอดีตปธน.ทรัมป์ กลับไม่ได้เปิดเผยในสิ่งที่หลายฝ่ายรอคอย แต่เลือกที่จะให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี เกี่ยวกับอารมณ์ของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ระหว่างรับฟังข้อกล่าวหา
เจมส์ ทรัสตี ทนายของอดีตปธน.ทรัมป์ เปิดเผยในรายการดังกล่าวว่า “ใครก็ตามที่เป็นเป้าหมายของทีมสืบสวนกลาง หรือของอัยการนิวยอร์ก พวกเขาต้องกลับมาพิจารณาตัวเองและคิดว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับพวกเขาแน่นอน มันเป็นสิ่งที่แย่สำหรับผม แต่เขา(อดีตปธน.ทรัมป์)รีบกลับมาตั้งหลักและมุ่งเป้าไปยังภาพที่ใหญ่ขึ้น มุมมองด้านประวัติศาสตร์ และผมเห็นด้วยว่านี่คือช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับประเทศ”
ทั้งนี้ อดีตปธน.ทรัมป์ เผชิญข้อหาคดีอาญา 34 กระทงที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงข้อมูลทางธุรกิจในรัฐนิวยอร์ก เพื่อปกปิดสิ่งที่เขาถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินค่าปิดปากให้กับดาราหนังผู้ใหญ่ ซึ่งมีข้อมูลที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับอดีตผู้นำสหรัฐฯ ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 ซึ่งอดีตปธน.ทรัมป์ไม่รับผิดทุกข้อกล่าวหา
ในทัศนะของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บารร์ กล่าวว่าคดีที่อัยการแขวงนิวยอร์ก อัลวิน แบรกก์ ผู้นำการสืบสวนนั้นไม่มีมูลเพื่อฟ้องเลย
อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า “การปลอมแปลงเอกสารธุรกิจจะกลายเป็นคดีอาญาได้ก็ต่อเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของคดีฉ้อโกง และผมไม่เห็นว่ามีจุดไหนที่ระบุชัดเจนว่ามีการฉ้อโกงเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับประเด็นการหมดอายุความด้วย ความล้มเหลวของเขา(อัยการแบรกก์)ในการชี้ชัดว่าคดีอาญาที่เกี่ยวข้องนั้นคืออะไรและได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นคดีอาญาได้อย่างไร”
อย่างไรก็ตาม อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังเห็นว่า ประเด็นที่อัยการพิเศษกำลังสืบสวนว่าอดีตปธน.ทรัมป์ทำผิดกฎหมายว่าด้วยการนำเอกสารชั้นความลับของราชการออกจากทำเนียบขาว และนำมายังบ้านพักของเขาในรัฐฟลอริดา ดูจะเป็นเรื่องที่น่าจะให้ความใส่ใจมากกว่า
อดีตรมต.บารร์ เสริมว่า “รัฐบาลกำลังตรวจสอบขอบเขตที่ว่าเกมไหนที่จะเล่นได้และมีอุปสรรคและสิ่งกีดขวางที่ปิดกั้นการเข้าถึงเอกสารต่าง ๆ ของพวกเขา”
ในตอนนี้ ไม่มีเอกสารชั้นความลับอยู่ในมือของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อีกแล้ว ตามการเปิดเผยของทนายทรัสตี
ทนายทรัสตี บอกด้วยว่า “เรามีความเป็นมืออาชีพ เราทำงานอย่างมีจรรยาบรรณ และเราได้ทำตามหมายศาลเรียบร้อยแล้ว”
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เห็นว่าระหว่างที่อดีตปธน.ทรัมป์ยังคงต่อสู้คดีล่าสุดนี้อยู่ โทษปรับและโทษจำคุกในคดีอื่นที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการพลิกผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 รวมทั้งคดีเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 มกราคม ปี 2021 ยังไม่ได้รับการระบุโทษไว้อย่างชัดเจน และอาจมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของเขาได้
แคลร์ ฟินเคลสไตน์ อาจารย์ด้านกฎหมายจาก University of Pennsylvania เปิดเผยกับวีโอเอภาคภาษาอูรูดูว่า “การสมรู้ร่วมคิดในการปลุกระดมหรือการจลาจล ภายใต้บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับที่ 14 หมวดที่สาม หมายความว่าเขาไม่สามารถดำรงตำแหน่งในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้อีก”
ท้ายสุดแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอเมริกัน ต่างไม่คิดว่าจะมีการตัดสินคดีใด ๆ เกี่ยวกับอดีตปธน.ทรัมป์ ได้ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ซึ่งในครั้งนี้อดีตปธน.ทรัมป์ ผู้พ่ายแพ้การเลือกตั้งปธน.เมื่อปี 2020 จะกลับมาสู้ศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวอีกครั้ง
- ที่มา: วีโอเอ