ภาพการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพจีนบริเวณช่องแคบไต้หวันในช่วงที่ผ่านมาเป็นการส่งข้อความจากกรุงปักกิ่งถึงที่ตอกย้ำว่า ไต้หวันไม่ใช่ประเทศที่มีอธิปไตยเป็นของตนเอง แต่ในความเป็นจริง การซ้อมรบอย่างหนักหน่วงของกองทัพปักกิ่งกลับนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม เพราะชาวไต้หวันส่วนใหญ่กลับยิ่งมีความคิดต่อต้านจีนมากยิ่งขึ้นแล้ว
ในกรุงไทเป ประชากรจำนวนมากนั้นเคยชินกับการข่มขู่ของจีน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาชอบหรือยอมรับการถูกกลั่นแกล้งดังว่า
เจย์ ชาวไต้หวันซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงไทเปและไม่ต้องการเปิดเผยนามสกุล กล่าวว่า การซ้อมรบไม่ได้ทำให้เขามีความรู้สึกจงรักภักดีต่อจีนหรือรู้สีกดีขึ้นต่อจีนเลย
ส่วน ริกกี้ ซู ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงไทเปเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวเสริมว่า “จีนต้องการจะควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะประชาชน หรือการใช้ชีวิตของผู้คน แต่ที่นี่คือไต้หวัน เรามีสิทธิ์มีเสียง เรามีอำนาจในการกำหนดว่าพวกเราอยากจะใช้ชีวิตอย่างไร”
ส่วน เดฟ ก็เป็นชาวกรุงไทเปอีกคนที่ไม่ชอบสิ่งที่จีนพยายามทำ โดยเขากล่าวว่า ทางการจีนพูดว่า ต้องการจะสั่งสอนและอบรมคนไต้หวันใหม่ หลังทำการผนวกไต้หวันให้เป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งฟังแล้วคล้าย ๆ กับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้ว
ท่าทีของจีนที่มีต่อไต้หวันนั้นเหมือนกับฮ่องกง เพราะจีนพยายามนำเสนอนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ให้ไต้หวันมาตลอด แต่การที่กรุงปักกิ่งทำการปรามปรามผู้ชุมนุมในฮ่องกงที่ต่อต้านรัฐบาลจีนกลับทำให้คนไต้หวันมองว่า แนวคิดที่จีนเสนอมาเป็นเพียงคำพูดลอยลมเท่านั้น
อาว สี ฟู จากสถาบัน Institute for National Defense and Security Research ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงไทเป กล่าวว่า “เราเห็นได้ชัดเลยว่า ฮ่องกงในปัจจุบันคือจีนเดียวไปแล้ว ซึ่งแปลว่า จีนได้กลืนคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในนโยบายหนึ่งประเทศ สองระบบ ไปแล้ว ดังนั้น ต่อจากนี้ไป เราจะเชื่อปักกิ่งได้อย่างไร?”
อย่างไรเสีย ความวิตกกังวลหรือความกลัวต่อท่าทีของจีนข้างต้นไม่ได้ทำชาวไต้หวันหยุดการใช้ชีวิตของพวกเขา โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งจีนทำการซ้อมรบอยู่รอบ ๆ เกาะที่ปกครองตนเองนี้ ประชาชนยังจัดงานเต้นรำสังสรรค์กันเหมือนไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่เลย
เหวิน ลี้ ผู้บริหารสำนักงานสาขาเกาะหมาจู่ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิไตยก้าวหน้า บอกกับ วีโอเอ “เราเข้าใจว่าการซ้อมรบของจีนเป็นการแสดงความโกรธหรือความไม่พอใจของกรุงปักกิ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นวิธีการสื่อสารที่ใช้ความรุนแรงมาก และวิธีนี้มีแต่จะกระตุ้นความเกลียดชังที่ชาวไต้หวันมีต่อทางการจีนให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก”
จากความเห็นที่ชาวไต้หวันแสดงออกมานี้ อาจสรุปได้ว่า แนวคิดการผนวกเกาะไต้หวันเข้ากับจีนนั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเริ่มไม่เห็นด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แม้คนส่วนใหญ่จะคัดค้านประกาศอิสรภาพจากจีนก็ตาม โดยผลสำรวจหลายสำนักยังระบุด้วยว่า ชาวไต้หวันส่วนใหญ่เพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างที่เป็นมาในช่วงหลายทศวรรษต่อไปเท่านั้นเอง
- ที่มา: วีโอเอ