เจ้าหน้าที่ไต้หวันเปิดเผยว่า จีนได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 11 ลูกซึ่งลอยไปตกในน่านน้ำรอบไต้หวันในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.แนนซี เพโลซี แวะเยือนไต้หวันและเดินทางออกไปเมื่อวานนี้
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น กองทัพจีนยิงขีปนาวุธวิถีโค้ง ตงเฟ็ง (Dongfeng) ตกในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางเหนือ ใต้ และตะวันออกของไต้หวัน
ก่อนหน้านี้ จีนแจ้งว่าจะมีการซ้อมรบแบบใช้กระสุนจริงบริเวณเขตน่านน้ำ 6 แห่งรอบไต้หวันตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันอาทิตย์ แต่การซ้อมรบที่เกิดขึ้นจริงในวันพฤหัสบดีนั้นขยายไปถึงเขตน่านน้ำที่ 7 และจะเพิ่มเวลาการซ้อมรบไปอีกหนึ่งวัน ตามรายงานของทางการไต้หวัน
ด้านสื่อของทางการจีนระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้รวมถึง "เครื่องยิงจรวดพิสัยไกล" และ "ขีปนาวุธแบบมาตรฐาน" และผลของการทดสอบประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้
วิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนแสดงให้เห็นขีปนาวุธถูกยิงจากเมืองผิงตันในมณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของจีน ห่างจากไต้หวันราว 125 กม.
การซ้อมรบครั้งล่าสุดของจีนถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและคุกคามมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางใต้ของไต้หวันไม่ถึง 20 กม.
ทั้งนี้ ส.ส.เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวันอังคาร และได้พบหารือกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวัน ก่อนที่ได้เดินทางออกจากไต้หวันเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจีนมองว่าการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ในครั้งนี้เป็นการท้าทายต่ออธิปไตยเหนือดินแดนของจีน
ดรูว์ ธอมป์สัน อดีตเจ้าหน้าที่ของเพนตากอน มองว่า การแสดงกำลังทางทหารของจีนในครั้งนี้ นอกจากเป็นการตอบโต้ต่อการเยือนของ ส.ส.เพโลซีแล้ว ยังถือเป็นการแสดงให้ประชาชนจีนเองเห็นว่ารัฐบาลมิได้อยู่นิ่งเฉยในเรื่องนี้
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การซ้อมรบครั้งนี้คือการซ้อมใหญ่ในกรณีที่จีนตัดสินใจบุกไต้หวัน รวมทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่ากองทัพจีนสามารถล้อมไต้หวันไว้ได้อย่างไร
หลายฝ่ายเกรงว่าอาจเกิดการคำนวณผิดพลาดระหว่างการซ้อมรบจนทำให้เกิดการบาดหมางครั้งใหญ่ขึ้นได้ แต่ ดรูว์ ธอมป์สัน นักวิชาการที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เชื่อว่า จีนใช้การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็นการข่มขู่และชวนเชื่อมากกว่าจะเป็นการโจมตีจริง ๆ และว่า ขณะนี้กองทัพจีนอยู่ระหว่างการซ้อมรบช่วงฤดูร้อนประจำปีด้วย
ในวันพฤหัสบดี กองทัพไต้หวันมีแถลงการณ์ว่าจะจับตามองกิจกรรมทางทหารที่ "ไร้เหตุผล" ของจีนอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมในกรณีทีเกิดความขัดแย้ง แต่จะไม่พยายามทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันระบุว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการละเมิดอธิปไตยเหนือน่านน้ำของไต้หวันและถือเป็นการ "ปิดล้อม" ไต้หวันด้วย
ทางด้านที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน กล่าวผ่าน National Public Radio ในวันพฤหัสบดีว่า "เราเชื่อว่าสิ่งที่จีนทำอยู่นั้นไร้ความรับผิดชอบ และยิ่งเป็นการทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นโดยไม่จำเป็น" และว่า "สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสหรัฐฯ คือการสื่อสารอย่างชัดเจนและแน่นอนระหว่างกันทั้งแบบเปิดเผยและเป็นส่วนตัวกับทางการจีน ว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมถูกบีบบังคับหรือขัดขวางให้งดเว้นภารกิจที่ทำอยู่ในแถบแปซิฟิกตะวันตก และขอให้จีนเข้าใจในเรื่องนี้"
"เราไม่ต้องการยกระดับความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ยอมถูกขัดขวางเช่นกัน" ซัลลิแวนกล่าว
ทั้งนี้ สายการบินบางแห่งได้สั่งยกเลิกหรือปรับเส้นทางการบินสำหรับเที่ยวบินเข้าและออกจากไต้หวันระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคมนี้ ระหว่างที่กำลังมีการซ้อมรบของกองทัพจีน รวมทั้ง โคเรียน แอร์ไลนส์ ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน ประชาชนส่วนใหญ่ในไต้หวันยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ แม้จะตระหนักดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ชาวไต้หวันต้องรับมือกับการข่มขู่คุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
- ที่มา: วีโอเอ