ผู้คนร่วมตะโกน Justice for Vicha! เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ระหว่างการชุมนุมเดินรณรงค์ บนถนนเทียร์ร่า วิสตา กับ ถนน เอนคานโต (Terra Vista Ave กับ Encanto Ave) จุดเกิดเหตุที่นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทย วัย 84 ปี เหยื่อที่ถูกคนร้ายผลักล้มจนเสียชีวิต ในนครซานฟานซิสโก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ปีที่ผ่านมา
ผู้คนในนครซานฟรานซิสโก และอีก 5 นครใหญ่ในสหรัฐฯ คือ ลอส แอนเจลิส นิวยอร์ก ชิคาโก ฟิลาเดลเฟียร์ และ แอตแลนตา นัดหมายจัดกิจกรรมพร้อมกัน และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์เพื่อร่วมรำลึกในวาระครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของนายวิชา รวมไปถึงเหยื่อผู้เสียชีวิตจากอาชญากรรมความเกลียดชังและเหยียดเชื้อชาติชาวเอเชีย ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา
มณฑนัศ รัตนภักดี ทายาทของนายวิชา กล่าวกับผู้คนที่เดินทางไปร่วมงาน ผ่านระบบออนไลน์ เธอเชื่อว่า คุณพ่อของเธอยังคงเฝ้ามองและให้กำลังใจในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และเธอยังคงจำคำสอนที่พ่อเคยบอกให้เข็มแข็ง แม้ในยามอ่อนล้า และขอให้ทุกคนเข้มแข็งยืนหยัดต่อต้านปัญหาอาชญากรรมความเกลียดชังชาวเอเชียร่วมกัน
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า 'Asian Justice Rally' ซึ่งถือเป็นความร่วมมือของเครือข่ายการรณรงค์ในระดับชาติครั้งใหญ่จากหลายเมืองของสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นในวันและเวลาเดียวกันเป็นครั้งแรกเพื่อร่วมต่อต้านอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับชาวเอเชีย โดยมุ่งแสดงจุดยืนสร้างการรับรู้ต่อสังคมอเมริกันในการที่จะไม่นิ่งเฉยกับสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป
เช่นเดียวกับการจัดงานที่นครลอส แอนเจลิส โดยมีการนัดหมายรวมตัวที่บริเวณวัดไทยลอสแอนเจลิส ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยเดินทางไปร่วมงาน รำลึกต่อนายวิชา และผู้เสี
รวมถึงตัวแทนระดับฝ่ายบริหารและฝ่ายผู้รักษากฎหมาย ของนครลอสแอนเจลิส และนาง จูดี้ ชู (Judy Chu) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รัฐแคลิฟอร์เนีย สลับกันขึ้นกล่าวปราศัยและไว้อาลัยต่อนายวิชา และเหยื่อชาวเอเชีย
ปัญญปวิณท์ เหราบัตย์ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ส่งเสริมชาวไทย (ThaiCDC Policy and Planning Associate) ผู้ประสานการจัดงาน บอกว่า การร่วมมือขององค์กรชาวเอเชียเพื่อจัดงานใหญ่ในหลายรัฐ จะมีส่วนช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้กับชาวเอเชียได้มากขึ้น
"การที่มาจัดงานแบบนี้นะครับ งานชุมนุมแบบนี้ ผมเชื่อว่าช่วยเป็นเสียงให้กับชาวเอเชียทั้งหลายที่ไม่ได้โอกาส รายงานหรือว่ามาร้องทุกข์ในสิ่งที่เขาประสบพบเจอนะครับ สิ่งร้ายๆ ที่เขาได้เจอ เราก็เป็นกระบอกเสียงแล้วก็ตัวแทนให้เขาในการปกป้องเขานี่แหละครับ อันนั้นสำคัญมากครับ เราก็ต้องทำทีละนิดละหน่อย แต่เราก็ต้องทำต่อไป.."
ด้าน เอนริโก เด ลาเวก้า (Enrico de la Vega) ชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลลิปินส์ และ ซาร่า ศรีสุนทร ชาวคนไทยในลอส แอนเจลิส ย้ำถึงความสำคัญที่หลายคนต้องการมีส่วนร่วมรำลึกถึงคุณวิชา และตระหนักถึงปัญหาความเกลียดชังทางเชื้อชาติชาวเอเชีย
“วันนี้ภูมิใจมากๆ ค่ะ ที่มีคนมาเยอะแยะแล้ว ก็ไม่ใช่แค่คนไทย แต่คือหลายเชื้อชาติมากค่ะที่รวมกันวันนี้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ”
เช่นเดียวกับ นางวรินทิพย์ แจ้งดี นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนี
“เหมือนเป็นแรงและก็เป็นพลังที่ทำให้พวกเราลุกขึ้นออกมา เพื่อเรียกร้องคืนความยุติธรรมให้กับคุณลุงวิชา รัตนภักดี การจากไปของคุณลุงวิชานี้ จะไม่เป็นการจะไปโดยสูญเปล่า พวกเราในนามของชุมชนชาวไทยใน ลอสแอนเจลิส ซานฟรานฯ และอีกหลายที่ และชาวเอเชียที่ได้ถูกทำร้ายเราขอยืนหยัดตรงนี้และขอเป็นแรงและเป็นกำลัง ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้กับคุณลุงวิชา รัตนภักดี”
ขณะที่การรวมตัวในนครใหญ่อื่นๆ ต่างมีผู้คนเดินทางไปร่วมงานจำนวนมาก โดยมีการสลับกันขึ้นกล่าวปราศัย กับผู้ร่วมงาน และถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมไปทั่วโลกผ่านระบบออนไลน์เผยแพร่ในเวปไซต์ asianjusticerally.org.
รายงานของ องค์กรยุติความเกลียดชังชาวเอเชีย หรือ Stop AAPI Hate พบการรายงานเหตุการณ์ความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเกาะแปซิฟิก หรือ AAPI กว่า 10,370 ครั้ง ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีข้อมูลวิจัยพบว่าชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียราว 1 ใน 5 คน จะเคยประสบกับปัญหาความเกลียดชังในปีที่ผ่านมา ทั้งการล่วงละเมิดทางวาจา การทำท่ารังเกียจ การทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางออนไลน์ และการละเมิดสิทธิพลเมือง ฯลฯ
