“ขอให้คนไทย ระวังตัวไว้ มองหน้า มองซ้าย จะไปไหน อย่าไปคนเดียว แค่นั้นเอง อย่าให้เรี่องมันเกิดซ้ำรอยเหมือนที่ ซาน ฟรานซิสโก”
อนุสรณ์ จิตรานุเคราะห์ ชาวไทย นครลอส แอนเจลิส วัย 74 ปี และกล่าวเตือนคนไทยในสหรัฐฯให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นในการใช้ชีวิต และแสดงความกังวลในความปลอดภัย หลังเกิดเหตุการณ์ทำร้าย นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทยวัย 84 ปี ที่ถูกชายวัยรุ่นผิวสี วิ่งเข้ามาผลักอย่างรุนแรง จนล้มเสียชีวิต ไม่ไกลจากบ้านพักในนครซาน ฟรานซิสโก เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
อนุสรณ์เล่าให้ฟังจากประสบการณ์เกือบ 50 ปีที่อาศัยในอเมริกา ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เขาสัมผัสได้จากเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติสีผิวที่รุนแรงขึ้น
“ (คุณวิชา) แกโชคร้าย ไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่สถานการณ์ในเวลานี้ อายุมากแล้วไม่ควรเดินไปคนเดียว ไม่ว่าที่ไหน เวลาเดินก็คอยมองซ้าย-ขวา มองหน้าหลัง แล้วถ้าเห็นอะไรไม่ดี ควรที่จะเดินเข้าไปอยู่ใกล้ที่ชุมชน เพราะว่าที่นี่ มันไม่เหมือนแต่ก่อน ที่ไม่ค่อยมีปัญหาการเหยียดผิว”
เช่นเดียวกับ จารุกร วัตราเศรษฐ์ นักศึกษาไทย ในนครลอส แอนเจลิส ที่เปิดเผยมุมมองของคนไทยที่อาศัยในอเมริกาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ตอนแรกผมเห็นคลิป ผมโกรธครับ โกรธมาก เนื่องจากผมคิดว่า มนุษย์ทุกคนไม่ควรทำร้ายกัน และก็ไม่มีใครมาทำร้ายเราเพราะสาเหตุเรื่องเชื้อชาติ และผมก็มองว่า ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรกันมาก่อนก็อาจเป็นเหตุผล แต่นี่ก็คือ ลุงท่านไม่ได้ทำอะไรเลย เดินอยู่เฉยๆ แล้วก็โดน แต่นี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกครับ ที่คนเอเชียโดน แค่ในสภาพร้านอาหาร หรือว่าตอน โควิด-19 แรกๆ ที่ระบาด เราก็โดนเหยียดอยู่แล้ว แต่แรก” จารุกร บอกกับ วีโอเอ ไทย
ความรุนแรงที่มีสาเหตุจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติและสีผิว ที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มชาวเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงหลังการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกว่าเป็น ‘ไชน่าไวรัส’ หรือ ไวรัสจีน เพราะว่ามีจุดเริ่มต้นการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ของจีน
ซึ่งทั้ง อนุสรณ์ และ จารุกร เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้มีส่วนทำให้เกิดปัญหาการเหยียดเชื้อชาติต่อชาวเอเชีย
“ เริ่มตั้งแต่ “ไชน่าไวรัส” ที่ “ทรัมป์” (โดนัลด์ ทรัมป์) บอกว่าเกี่ยวกับจีน (China) คนขาวเลยมองว่าเอเชียรวมหมด ไทย จีน ฟิลิปปินส์ เรียกว่า ไชนิส (Chinese) หมด เริ่มต้นตั้งแต่โควิด มันถึงได้มีเรื่อง สมัยก่อนเรื่องก็ ไม่กล้าไม่มี อยู่ที่ว่าสังคมที่นี่ตอนนี้จะรับยังไง กลุ่มใหญ่” อนุสรณ์ จิตรานุเคราะห์ ชาวไทย นครลอส แอนเจลิส วัย 74 ปี กล่าว
“ผมมองว่าการเหยียดก็มีทุกที่ในอเมริกา ถ้าให้พูดตรงๆ ก็มีโดนบ้างเพราะเป็นเอเชีย เห็นตั้งแต่ 200 เมตรแล้ว แต่ผมก็ยังเชื่อว่า มันไม่ใช่ทุกที่ ไม่ใช่ว่าคนเชื้อชาตินั้นเป็นคนแบบนั้นทุกคน ก็ยังมีเพื่อนเป็นคนผิวสี ผิวขาว ก็เป็นส่วนน้อยๆ ที่อาจจะทำออกมาให้เราเห็นว่ามันรุนแรง” จารุกร วัตราเศรษฐ์ นักศึกษาไทย ในนครลอส แอนเจลิส
ข้อมูลจากข้อมูลจากองค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ Stop AAPI Hate ระบุว่า มีรายงานกรณีการเหยียดและกีดกันด้านเชื้อชาติ สีผิวเกิดขึ้นกับกลุ่มชาวเอเชียในอเมริกามากกว่า 2,800 ราย ขณะที่การคุกคามส่วนใหญ่เป็นการใช้วาจาด่าทอด้านเชื้อชาติและสีผิว แต่ก็มีการใช้กำลังทำร้ายราวร้อยละ 9 รวมถึงการคุกคามไอหรือถ่มน้ำลายใส่
ขณะเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มชุมชนชาวเอเชีย ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในนามกลุ่ม Stand For Asians ได้จัดกิจกรรมรวมตัวภายใต้ชื่อ Rally Against Anti-Asian Hate Crimes + Racism หรือการเดินขบวนต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชัง และการเหยียดเชื้อชาติสีผิวต่อชาวเอเชีย ที่เกิดขึ้นทั่วอเมริกา โดยจัดขึ้นที่สวนสาธารณะ Los Angeles State Historic Park ใจกลางนครลอส แอนเจลิส โดยมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่นคนเอเชีย คนผิวสี ผิวขาว ที่เดินทางมากล่าวปราศรัย และแสดงจุดยืนเดียวกันเพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุชาวเอเชีย โดยหนึ่งในนั้นคือนายเจอรี ราเบิร์น นักศึกษาไทย-อเมริกัน ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดงาน
“ ความรุนแรงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับ คุณแม่ของผม หรือ คุณพ่อของผม หรือ ญาติผู้ใหญ่ที่อาจถูกทำร้ายที่ทางเดินหน้าบ้าน” เราทุกคน โดยเฉพาะชาวเอเชียต้องร่วมมือกันต่อต้านสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นในสังคม” เจอรี ราเบิร์น นักศึกษาเชื้อสายไทย-อเมริกัน แกนนำกลุ่ม Thai Americans Against Hate
ภายในงานยังมีกิจกรรมร้องเพลงที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับกิจกรรม มีการนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เชื่อว่าเป็นปัญหาจากความรุนแรงที่มีต่อชาวเอเชียมาติดรอบงาน และมีกระดาษให้ร่วมลงชื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตอีกด้วย