การเสียชีวิตของนายวิชา รัตนภักดี ผู้ที่มีเชื้อสายไทยวัย 84 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาถูกผลักล้มลงโดยวัยรุ่นชาย บริเวณบ้านพักในขณะที่กำลังออกกำลังกายในนครซานฟรานซิสโก ได้ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวทั้งจากภาครัฐและชุมชนไทยในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันสื่อท้องถิ่นในรัฐเเคลิฟอร์เนีย ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อย่างใกล้ชิด สื่อ CBS ในเขตซานฟรานซิสโกรายงานว่า นายแอนตวน วัทสัน ผู้ต้องหา วัย 19 ปี ชาวเมืองเดลี ซิตี้ ขึ้นให้การต่อศาลเมื่อวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเขาปฎิเสธข้อกล่าวหาคดีฆาตกรรมและทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุ โดยทางผู้พิพากษาขอร้องให้ผู้สื่อข่าวถ่ายวีดีโอผู้ต้องหาจากด้านหลังเท่านั้น โดยมิให้เปิดเผยใบหน้าแต่อย่างใด
หลังการพาตัวนาย วัทสัน ออกจากห้องพิจารณคดีแล้วนั้นปรากฎว่ามีหญิงชรารายหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “ฉันรักเธอ แอนตวน” ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นคุณย่าของนายวัทสัน และเมื่อผู้สื่อข่าวถามเธอว่าอยากจะเห็นอะไรเกิดขึ้นต่อไป เธอตอบว่า “อยากให้หลานเดินออกจากห้องพิจารณคดี ได้รับอิสรภาพ”
ก่อนหน้านี้ นางลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีหญิงของเมืองซาน ฟรานซิสโก ร่วมกับ บิลล์ สก็อตหัวหน้าตำรวจของเมืองซาน ฟรานซิสโก และชีซ่า โบเดน อัยการเขตของซานฟรานซิสโก เปิดแถลงข่าวด้วยระบบออนไลน์ร่วมกัน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อบ่งชี้ถึงปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่
นางบรีดกล่าวย้ำว่าผู้กระทำผิด จะต้องรับผิดชอบจากการกระทำที่น่ารังเกียจที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาเพราะซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่เธอเคยเติบโตขึ้นมาแบบหวาดกลัวมาก่อน ส่วนหัวหน้าตำรวจและอัยการก็ย้ำเช่นกันว่าจะเอาผิดผู้ต้องหาในคดีนี้ให้ถึงที่สุด
สำหรับปฎิกิริยาจากชุมชนชาวไทยและเอเชียทั่วสหรัฐอเมริกา ได้มีการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ส่วนตัวในบัญชีโซเชี่ยลมีเดีย เช่นทวิตเตอร์ , เฟสบุ๊ก และอินสตาแกรม เป็นรูปวาดคุณวิชา และโพสภาพดังกล่าวโดยติดแฮชแท็ก #vicharatanapakdee เพื่อเป็นการไว้อาลัยและระลึกถึงการจากไปของคุณวิชา และอีกจุดประสงค์หลักเพื่อให้ทุกภาคส่วนมาตระหนักถึงความรุนแรงที่พุ่งเป้ามายังชุนชนชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก การเหยียดเชื้อชาติ และการหยุดทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุที่ไม่มีทางสู้
ความเคลื่อนไหวของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ต่อเหตุสลดครั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลาเที่ยงตรง จะมีการจัดงานโดยชุมชนไทยในนครลอส แอนเจลิส ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่ฯ ชื่อว่า “Thai Americans Against Hate” เพื่อเป็นการรวมกลุ่มและยืนหยัดต่อกระแสความเกลียดชังที่มีต่อชุมชนชาวเอเชียนอเมริกัน ชุมชนไทย ที่ปัจจุบันยังพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นรายวัน นอกจากนี้ยังเป็นการระลึกถึงการจากไปของคุณวิชา รัตนภักดี ที่บั้นปลายชีวิตได้เดินทางจากเมืองไทยเพื่อมาดูแลหลานชายแต่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะเหตุความรุนแรงที่รับไม่ได้ดังกล่าว
