กระทรวงยุติธรรมรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งตรวจสอบและสืบสวน จับตามองคดีอาชญกรรมที่อาจเข้าข่ายว่ามีสาเหตุจากการเกลียดชังทางเชื้อชาติที่พุ่งเป้าไปยังชาวเอเชียหลังมีสถิติเหตุรุนแรงต่อชาวเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมนายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย 84 ปี เริ่มการไต่สวนนัดแรกในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาแล้ว ท่ามกลางการกลุ่มชาวไทยและชาวนครซาน ฟรานซิสโก ที่เดินทางไปติดตามการพิจารณาคดีและชุมนุมอย่างสงบเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายวิชา และเหยื่่ิอความรุนแรงจากความเกลียดชัง
“ผมก็หายใจเหมือนคุณ ผมมีครอบครัว ผมมีคุณปู่คุณย่าคุณตายาย ผู้สูงอายุ ผมจึงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเหมือนทุกคน..”
เควิน เอพ์ส (Kevin Epps) ชายชาวอเมริกันผิวดำในนครซาน ฟรานซิสโก บอกความรู้สึกของตัวเอง ในความเข้าใจและเห็นใจในความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างจากทุกคน และแน่นอนว่าเขาอยากเห็นความรัก และความเป็นหนึ่งเดียวของคนชุมชนมากกว่าที่เป็นอยู่
เควิน เป็นหนึ่งในกลุ่มชาวผิวดำส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงตัว แสดงความเห็นใจ พบปะและร่วมกล่าวปราศรัย ระหว่างชุมนุมเคียงข้างกับกลุ่มชาวไทยและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ที่เดินทางไปรวมตัวบริเวณด้านหน้าที่ทำการศาลยุติธรรมรัฐแคลิฟอร์เนีย เขตซาน ฟรานซิสโก เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและติดตามการพิจารณาไต่สวนของศาล นัดแรกในคดีที่นายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย 84 ปี ถูกชายวัยรุ่นผิวดำ พุ่งทำร้ายอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต
ความอยุติธรรมไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน ก็ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อความยุติธรรมในทุกหนทุกแห่ง..มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ
เช่นเดียวกับ เอมอส บราวน์ (Amos Brown) ชายชาวผิวดำวัย 80 ปี กล่าว ในช่วงหนึ่งของการปราศรัยเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
“คุณครูของผม สาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง (นักต่อสู้เรียกร้องสิทธิพลเมืองคนสำคัญในยุคทศวรรษที่ 70) เคยสอนผมในชั้นเรียน เมื่อวันหนึ่งว่า ..ความอยุติธรรมไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน ก็ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อความยุติธรรมในทุกหนทุกแห่ง..”
ก่อนหน้านี้ กลุ่มชุมชนไทยรวมใจ หรือ Thai Unity Community ในนครซาน ฟรานซิสโก และนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวต่อต้านความรุนแรงต่อชาวเอเชียจำนวนหลายสิบคน ได้นัดหมายรวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ชุมนุมถือป้ายเรียกร้องความยุติธรรม สวมเสื้อที่สกรีนภาพนายวิชา รัตนภักดี
เรามาเพื่อที่จะสนับสนุนให้คุณลุงวิชา และครอบครัว ได้รับความยุติธรรม นี่คือสิ่งที่เราอยากได้มากที่สุด ...คลาวเดีย กรชยา มันจันดา ผู้ประสานงาน กลุ่มชุมชนไทยรวมใจ
คลาวเดีย กรชยา มันจันดา ผู้ประสานงาน กลุ่มชุมชนไทยรวมใจ (Thai Unity Community) บอกถึงความสำคัญในการมารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังในครั้งนี้ว่า
“..การรวมตัวของคนไทยหรือว่าทุกชุมชนสำคัญมากในการช่วยให้คดีของคุณวิชา หรือ ผู้สูงอายุท่านอื่นๆที่ประสบกับปัญหาการใช้ความรุนแรงคุกคาม เพื่อเป็นการช่วยให้ทางอัยการเขต หรือ District Attorney (D.A.) และทางเคาท์ตี้ (เขตปกครอง) ได้รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีคนเห็น มีคนรับรู้ และมีคนใส่ใจ ไม่ใช่ว่าใครจะมาทำอะไรคนของเราได้..เราใม่ได้มาเพื่อที่จะทำร้ายใคร ไม่ได้มาเพื่อที่จะส่งเสียงดัง แต่เรามาเพื่อที่จะสนับสนุนให้คุณลุงวิชา และครอบครัว ได้รับความยุติธรรม นี่คือสิ่งที่เราอยากได้มากที่สุด..”
Leanna Louie ผู้ก่อตั้งกลุ่ม United Peace Collaborative เขื้อสายจีนที่เคลื่อนไหวต่อต้านการเกิดความรุนแรงต่อชาวเอเชีย จัดกิจกรรมอาสาสมัครเดินตรวจตรา สอดส่องดูแลความปลอดภัยในย่านไชน่าทาวน์และย่านคนเอเชียที่นครซาน ฟรานซิสโก มานับปี ก็ออกมาร่วมการชุมนุมกับชุมชนไทยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายวิชา และการยุติความรุนแรงต่อชาวเอเชีย
เช่นเดียวกับ เจอร์รี่ ลาเบิร์น (Jerry Laburn) ชาวไทย-อเมริกัน แกนนำเคลื่อนไหวการเรียกร้อง "ความยุติธรรมเพื่อนายวิชา" จากนครลอส แอนเจลิส เดินทางไกลไปร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ เรียกร้องให้อัยการเขต หรือ District attorney ที่รับผิดชอบคดีนี้ตั้งข้อหาฆาตกรรมจากความเกลียดชังเพื่อเอาผิดผู้ต้องหาเพิ่ม
ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาคดีทำร้ายนายวิชาได้ให้การปฏิเสธความผิดในทุกข้อกล่าวหา ทั้งในคดีฆาตกรรมและใช้กำลังกับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ฝ่ายอัยการเจ้าของคดียังไม่ได้ตั้งข้อหาฆาตกรรมอันเนื่องจากความเกลียดชังเชื้อชาติสีผิว หรือ Hate Crime กับผู้ต้องหา โดยระบุว่ายังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ และกล่าวว่าลักษณะแนวโน้มและแรงจูงใจน่าจะเป็นการบันดาลโทสะมากกว่า
ขณะที่ การพิจารณาคดีนัดแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้อง โดยผู้พิพากษายังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาพยานหลักฐาน ว่าเพียงพอที่จะดำเนินคดีผู้ต้องหาหรือไม่ แต่ทางฝ่ายจำเลย คือ นายอองตวน วัตสัน ชายผิวสี วัย 19 ปี ที่ยังคงอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวได้ขอเลื่อนการพิจารณาออกไป เป็น วันที่ 22 มีนาคม โดยกลุ่มชาวไทยในสหรัฐฯยืนยันว่าจะกลับรวมตัวแสดงพลังสนับสนุนอีกครั้ง
การเสียชีวิตของนายวิชา รัตนภักดี มีส่วนทำให้เกิดกระแสการเรียกร้องและต่อต้านความรุนแรงที่พุ่งเป้าไปยังชาวเอเชียในสหรัฐฯที่มีสถิติเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในหลายเมืองทั่วอเมริกา
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ เตรียมให้การตรวจสอบและสืบสวนในเชิงลึกต่อปัญหาอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกับชาวเชื้อสายเอเชีย โดยมีคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เช่น สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI และอัยการของรัฐบาลกลาง ประสานงานกับกับตำรวจท้องถิ่นในแต่ละรัฐ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในคดีอาชญากรรมที่สงสัยว่าอาจมีเหตุมาจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า คำสั่งดังกล่าวเพื่อมุ่งเน้นตอบสนองจากรายงานความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียโดยเฉพาะ