จากรายงานล่าสุดของ STOP AAPI Hate หรือ องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคามหรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิว มากกว่า 3,795 ครั้ง ภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
องค์กรดังกล่าวได้บันทึกเหตุคุกคามคนเอเชียในสหรัฐฯ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มประกาศว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในอเมริกา จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้
ส่วนในปีนี้ แม้เวลายังผ่านไปแค่สามเดือนเศษ เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวก็เกิดขึ้นกว่า 500 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในผู้เคราะร้าย คือ นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทยวัย 84 ปีที่ถูกวัยรุ่นชายทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตขณะเดินออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้านในนครซานฟรานซิสโก ซึ่งผู้ต้องหาวัยรุ่นคนดังกล่าวได้ถูกควบคุมตัวและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
แม้การคุกคามชาวเอเชียจะเกิดขึ้นทั่วอเมริกา รัฐที่เกิดเหตุมากที่สุดถึง 45 เปอร์เซ็นต์ของกรณีทั้งหมด คือ รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งรัฐนี้มีประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ และ ที่รองมา คือ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีรายงานการคุกคามถึง 14 เปอร์เซ็นต์
รายงานขององค์กร STOP AAPI Hate ระบุว่า การคุกคามด้านเชื้อชาตินั้นแบ่งออกเป็นสามลักษณะใหญ่ๆ ได้ คือ การคุกคามด้วยวาจา ซึ่งได้รับการแจ้งเหตุมากที่สุดถึง 68.1 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ การแสดงความรังเกียจ เกิดขึ้นประมาณ 20.5 เปอร์เซ็นต์ และ ท้ายสุด คือ การทำร้ายร่างกาย ซึ่งคนเอเชียตกเป็นเหยื่อถึง 11.1 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ผู้ที่แจ้งเหตุถูกคุกคามยังเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึงสองเท่า โดยคิดเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ถึง 42.2 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยคนเกาหลี 14.8 เปอร์เซ็นต์ ชาวเวียดนาม 8.5 เปอร์เซ็นต์ และ ชาวฟิลิปปินส์ 7.9 เปอร์เซ็นต์
องค์กรข้างต้นได้ระบุในรายงานถึงยอดของคนเอเชียที่ถูกคุกคามในสหรัฐฯ ว่า จำนวนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่มีคนมาแจ้งและขอความช่วยเหลือผ่านทางศูนย์มาก อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของการคุกคามที่สูงเกือบถึง 3,800 ครั้งนั้นก็แสดงให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติมาก
กระแสต่อต้านคนเชื้อสายเอเชียในอเมริกา
คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียได้เริ่มแจ้งความถึงการถูกคุกคามตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2020 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวสหรัฐฯอยู่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
เขามักใช้คำเรียกโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ว่า "ไวรัสจีน" หรือ "กังฟลู" (kung flu) ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร STOP AAPI Hate นาง ซินเธีย ฉ่อย กล่าวว่าถ้อยคำดังกล่าวเป็นการเหยียดเชื้อชาติ
สำนักข่าว วีโอเอ ได้รายงานว่ากระแสต่อต้านคนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการคุกคามคนเอเชียได้พุ่งสูงกว่า 150 เปอร์เซ็นต์ในเมืองใหญ่ตามรัฐต่างๆ ในปี 2020 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
ส่วนทางด้านการรับมือของปัญหาการคุกคาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในเอกสารของฝ่ายบริหาร
ให้หน่วยงานรัฐร่วมต่อต้านและป้องกันอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในอเมริกาเมื่อปลายเดือนมกราคม และในเดือนที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯก็ได้มีการจัดอบรมด้านการสืบสวนและการลงโทษผู้กระทำผิดให้แก่เจ้าหน้าที่กฏหมายและตำรวจหลายร้อยคน