ครอบครัวของนายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย 84 ปี ที่ถูกวัยรุ่นชายวัย 19 อองตวน วัตสัน ผลักล้มลงอย่างแรงจนเสียชีวิต ในนครซานฟรานซิสโก แสดงความไม่พอใจ หลังจากอัยการเขต 29 ของซานฟรานซิสโก เชซ่า บูดิน (Chesa Boudin) ระบุว่า ชายผู้ก่อเหตุนั้นมีพฤติกรรมโมโหอาละวาดที่นำไปสู่การใช้กำลัง ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์เอบีซี และเดอะนิวยอร์กไทม์ส
ในรายงานของเดอะนิวยอร์กไทม์ส อ้างความเห็นของอัยการบูดิน ต่อนายอองตวน วัตสัน ผู้ก่อเหตุผลักนายวิชาจนเสียชีวิต อ้างหลักฐานในคลิปวิดีโอที่พบว่านายวัตสัน วัย 19 ปี ใช้มือทุบเข้าที่รถ พร้อมระบุว่าชายผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมโมโหอาละวาดที่นำไปสู่การใช้กำลัง เหมือนใช้อธิบายพฤติกรรมของเด็กเล็ก
หลังทราบถึงความเห็นของอัยการรายนี้ เอริค ลอว์สัน ลูกเขยของนายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย 84 ปีที่เสียชีวิต ระบุว่า ตนไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยกับสิ่งที่ระบุถึงตัวนายวัตสัน และว่านายวัตสันรู้ตัวดีกว่ากำลังทำอะไรอยู่ในตอนนั้น และรู้สึกแย่กับคำแก้ต่างที่ออกมา
ส่วนมณฑนัศ รัตนภักดี บุตรสาวของนายวิชา บอกว่า เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง และว่าพฤติกรรมโมโหอาละวาดที่ว่านี้ เขาจะไปทุบรถได้ แต่ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายหรือพรากชีวิตผู้อื่นเช่นนี้
ทั้งนี้ นายอองตวน วัตสัน ชายผู้ก่อเหตุผลักนายวิชาเสียชีวิต ถูกจับกุมในคดีฆาตกรรมและใช้กำลังกับผู้สูงอายุ และต้องไปขึ้นศาลอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ (4 มีนาคม)
ทางครอบครัวของนายวิชา รัตนภักดี รอคอยคำวินิจฉัยที่จะมาถึง โดยหวังว่าจะได้รับรู้ความจริงที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ยังได้ขอบคุณชาวไทยและผู้คนในชุมชนทุกเชื้อชาติที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ
ครอบครัวของนายวิชา หวังว่าคดีของนายวิชา รัตนภักดี จะสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของชุมชนเอเชียนอเมริกัน และหวังว่าผู้คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียจะมีความกล้าที่จะออกมาพูดถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
ทั้งนี้ กองทุนใน GoFundMe ที่ครอบครัวตั้งเป้านำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำพิธีศพของนายวิชา จะยังคงระดมทุนต่อไป เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงการใช้ความรุนแรงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย รวมทั้งตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาให้กับหลานๆ ของนายวิชาอีก 2 คน