จับตาประชุมพิเศษ 'ยูเอส-อาเซียน ซัมมิต' ท่ามกลางวิกฤติโคโรนาไวรัส

U.S. National Security Advisor Robert C. O’Brien and ASEAN foreign ministers and Thailand's Prime Minister Prayuth Chan-ocha attend 7th ASEAN-United States Summit in Bangkok, Thailand, November 4, 2019.

รัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพการประชุมวาระพิเศษ U.S.-ASEAN special summit ในวันที่ 14 มีนาคม ที่นครลาสเวกัส โดยมีการวางแผนการประชุมแบบทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำประเทศในอาเซียนแต่ละประเทศด้วย

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางการขยายอิทธิพลของจีนในแถบอาเซียน และยังมีขึ้นในขณะที่กำลังเกิดการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส โควิด-19 ในหลายประเทศในเอเชียด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าเพิกเฉยต่อสมาคมอาเซียน ซึ่งทำให้จีนสามารถใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองแทรกซึมเข้าในช่องห่างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน

ในช่วง 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง ปธน.ทรัมป์เข้าร่วมการประชุม East Asia Summit ร่วมกับบรรดาผู้นำอาเซียนเพียงแค่ครั้งเดียว คือในปี ค.ศ. 2017 และส่งรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไปแทนในปี 2018 ส่วนปีที่แล้ว ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว โรเบิร์ต โอไบรอัน เดินทางไปเข้าร่วมแทน ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจให้กับผู้นำอาเซียนบางประเทศ

อย่างไรก็ตาม นายโอไบรอันได้ส่งเทียบเชิญบรรดาผู้นำอาเซียนให้เดินทางมาร่วมประชุมวาระพิเศษกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่สหรัฐฯ ในช่วงต้นปีนี้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า อาเซียนคือหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และการประชุมครั้งนี้คือโอกาสที่จะเน้นย้ำความเป็นพันธมิตรที่ยาวนานและการแบ่งปันหลักการร่วมกัน ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างทั้งสองฝ่าย

ด้านนายแอนโธนี เนลสัน นักวิเคราะห์แห่งองค์กร Albright Stonebridge Group เชื่อว่าการประชุมลักษณะนี้คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน หลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ ไม่เดินทางไปร่วมการประชุม East Asia Summit ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าผู้จัดทำนโยบายของทั้งสองฝ่ายต่าง "กระหาย" ที่จะให้เกิดความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน เพื่อรับมือภัยคุกคามต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้

สำหรับประเด็นสำคัญที่จะหารือกันในการประชุม U.S.-ASEAN special summit ในวันที่ 14 มีนาคม ที่นครลาสเวกัส คาดว่าจะเป็นเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้, การโจมตีทางไซเบอร์, การก่อการร้ายข้ามชาติ การค้าการลงทุน และการรับมือระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพการประชุม สหรัฐฯ-อาเซียน วาระพิเศษ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อดีต ปธน.โอบาม่าก็เคยเป็นเจ้าภาพการประชุมลักษณะนี้มาแล้วที่เมืองซันนีแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับบทบาทของอาเซียนบนเวทีโลกด้วย