ภารกิจอพยพประชาชนชุดแรกออกจากโรงงานเหล็กมาริอูโพลลุล่วง คาดยังติดค้างหลายร้อยคน

A child emerges from the Azovstal steel plant during UN-led evacuations after nearly two months of siege warfare on Mariupol, Ukraine, by Russia, in this still image from a video released May 1, 2022. Credit: David Arakhamia/Azov Regiment/Handout via REUT

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประชาชนชุดแรกได้รับการช่วยเหลือออกมาจากโรงงานเหล็กในเมืองมาริอูโพลซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของนักรบยูเครนที่เมืองนี้ท่ามกลางการปิดล้อมของกองทัพรัสเซีย และได้รับการนำตัวไปส่งยังสถานที่ปลอดภัยแล้วในวันจันทร์

วิดีโอที่เผยแพร่โดยกองทัพยูเครนและรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ แสดงให้เห็นประชาชนมากกว่า 100 คน รวมทั้งสตรีสูงอายุ และสตรีหลายคนที่มีเด็กเล็ก เดินขึ้นรถบัสและรถพยาบาลเพื่อเดินทางออกจากโรงงานเหล็ก อซอฟสตาล (Azovstal) ซึ่งถูกโจมตีในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ประชาชนเหล่านั้นจะถูกนำตัวไปส่งที่เมืองซาปอริซห์เซีย ซึ่งห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 230 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียระบุว่า มีผู้อพยพบางส่วนที่ถูกนำตัวไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในการครอบครองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียหนุนหลัง โดยยืนยันว่าพวกเขาเลือกที่จะอยู่กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ขณะที่ผู้อพยพส่วนใหญ่ต้องการเดินทางไปยังเมืองที่ยูเครนยังคงครอบครองอยู่

ก่อนหน้านี้ ทางการยูเครนกล่าวหาว่าทหารรัสเซียพยายามนำตัวประชาชนกลับไปยังรัสเซียหรือเมืองที่รัสเซียครอบครองอยู่แม้ผู้อพยพเหล่านั้นไม่ต้องการ แต่ทางรัฐบาลรัสเซียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

FILE PHOTO: Smoke rises above a plant of Azovstal Iron and Steel Works in Mariupol

หากการอพยพประชาชนออกจากโรงงานเหล็กแห่งนี้ประสบความสำเร็จ จะถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมของสงครามในยูเครนที่ล่วงเลยมา 10 สัปดาห์ หลังจากที่ความพยายามจัดทำเส้นทางอพยพออกจากเมืองมาริอูโพลหลายครั้งที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวหาทหารรัสเซียว่ายังคงโจมตีใส่เส้นทางอพยพดังกล่าว

สหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นผู้ดูแลภารกิจอพยพประชาชนออกจากโรงงานอซอฟสตาลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว โดยเชื่อว่ามีประชาชนราว 1,000 คนติดอยู่ในโรงงานขนาดใหญ่แห่งนี้ รวมทั้งทหารยูเครนอีกราว 2,000 คนที่หลบอยู่ตามโครงข่ายอุโมงค์และเส้นทางลับที่สลับซับซ้อนภายในโรงงานเหล็กแห่งนี้ซึ่งตกอยู่ในวงล้อมของทหารรัสเซีย

ทางกองทัพรัสเซียขอให้ทหารยูเครนเหล่านั้นยอมแพ้และวางอาวุธ แต่พวกเขาปฏิเสธ

เมืองมาริอูโพลเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ถูกทหารรัสเซียโจมตีอย่างหนักตลอดหลายสัปดาห์ โดยคาดว่ายังคงมีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองท่าแห่งนี้ราว 100,000 คน จากทั้งหมด 400,000 คนก่อนที่จะเกิดสงคราม ประชาชนจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรคและเครื่องทำความร้อน ท่ามกลางซากปรักหักพังจากการโจมตีของรัสเซีย

Civilians who left the area near Azovstal steel plant in Mariupol walk accompanied by a member of the International Committee of the Red Cross (ICRC) at a temporary accommodation center in the village of Bezimenne in the Donetsk Region, Ukraine, May 1, 20

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวแสดงความหวังว่า จะสามารถอพยพประชาชนออกจากเมืองแห่งนี้ได้มากขึ้นในวันจันทร์ และว่า พลเมืองที่ยังคงติดค้างอยู่ในโรงงานเหล็กอซอฟสตาลหวาดกลัวว่าจะถูกนำตัวขึ้นรถบัสเพื่อไปส่งที่เมืองซึ่งอยู่ภายใต้การครอบครองของรัสเซียหรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

โดยประธานาธิบดียูเครนรับปากว่า ตนได้รับการรับรองจากสหประชาชาติว่าจะนำพวกเขาไปส่งที่เมืองที่รัฐบาลยูเครนครอบครองอยู่

ขณะเดียวกัน หนึ่งในทหารของยูเครนรายงานว่า ยังคงมีการโจมตีใส่โรงงานเหล็กแห่งนั้นอย่างต่อเนื่องในวันอาทิตย์ แม้มีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวก็ตาม

Azov regiment members walk with civilians during UN-led evacuations from the sprawling Azovstal steel plant, after nearly two months of siege warfare on the city by Russia during its invasion, in Mariupol, Ukraine in this still image from handout video released May 1, 2022.

เดนิส ชเลกา ผู้บัญชาการกองพันที่ 12 แห่งกองกำลังเนชั่นแนลการ์ดของยูเครน ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า ยังมีประชาชนหลายร้อยคนที่ติดอยู่ในโรงงานอซอฟสตาล รวมทั้งทหารที่ได้รับบาดเจ็บเกือบ 500 คน และศพอีกจำนวนมาก

"เด็กหลายสิบคนยังติดอยู่ในหลุมหลบภัยใต้โรงงานแห่งนั้น" ชเลกากล่าว

  • ที่มา: เอพี