ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวหารัสเซียว่า พยายามทำให้องค์การสหประชาชาติ (UN) ขายหน้าด้วยการสั่งยิงขีปนาวุธถล่มกรุงเคียฟระหว่างที่เลขาธิการใหญ่ อันโตนิโอ กูเทอเรซ กำลังเยือนเมืองหลวงของยูเครนอยู่ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ปธน.เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ กองกำลังของยูเครนยังคงเดินหน้าต้านรับการโจมตีอย่างหนักของกองทัพรัสเซียที่พยายามรุกคืบเข้ามาทางด้านทิศใต้และทิศตะวันออกของประเทศ โดยที่กระบวนการอพยพประชาชนที่ติดค้างอยู่ในเมืองมาริอูโพลซึ่ง UN เป็นผู้ช่วยประสานงานให้ยังดำเนินต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้ ยูเครนไม่สามารถทำการอพยพใดๆ ได้มากดังหวัง
รายงานข่าวระบุว่า หลังกรุงเคียฟอยู่ในสภาพสงบมาได้สักระยะ กองทัพรัสเซียทำการระดมยิงใส่ยูเครนอย่างต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี และทำลายอาคารสูงที่พักอาศัย 1 แห่งและอาคารอีกหลังในเมืองหลวงของยูเครนไป
สถานีข่าว Radio Free Europe/Radio Liberty ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ US Agency for Global Media (USAGM) เช่นเดียวกับ วีโอเอ รายงานว่า วีรา เฮียริค ผู้สื่อข่าวของตนซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารหลังหนึ่งที่ถูกโจมตีครั้งนี้ คือ หนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตลง โดยเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพบร่างของเธอในซากตึกที่ถล่มลงมา
เจมี ฟลาย ประธาน Radio Free Europe กล่าวว่า ทางหน่วยงาน “รู้สึกช็อกและรับไม่ได้อย่างมากต่อการเสียชีวิตของเธอ (วีรา) ที่เกิดขึ้นในบ้านของเธอ ในประเทศและเมืองที่เธอรักยิ่ง”
นอกจากนั้น เอพี รายงานว่า อดีตนาวิกโยธินอเมริกัน 1 รายที่เข้าร่วมกับกองกำลังยูเครนเพื่อสู้กับรัสเซียเสียชีวิตระหว่างการสู้รบในกรุงเคียฟ ตามข้อมูลของญาติของอดีตนายทหารรายนี้ ซึ่งทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้ออกมายืนยันความถูกต้องของรายงานนี้ ซึ่งหากเป็นจริง ก็จะเป็นชาวอเมริกันรายแรกที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามในยูเครน
ก่อนหน้านี้ ชาวอังกฤษ 1 รายและชาวเดนมาร์กอีก 1 รายที่เข้าร่วมกับกองกำลังยูเครนถูกสังหารในการปะทะกับรัสเซียไปแล้ว
กองทัพรัสเซียเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งล่าสุดใส่กรุงเคียฟของตนสามารถทำลาย “อาคารฝ่ายผลิต” ของโรงงานอาวุธอาร์เท็ม ของยูเครนได้หลายหลัง
ทั้งนี้ การถล่มโจมตียูเครนในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังจากปธน.เซเลนสกี ร่วมงานแถลงข่าวกับ เลขาธิการใหญ่ กูเทอเรซ แห่ง UN ที่อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเพื่อตรวจสอบความเสียหายจากสงครามที่ดำเนินมากว่า 2 เดือนนี้ และกล่าวประณามการโจมตีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพลเรือนด้วย
และในคลิปแถลงการณ์ประจำวันที่ออกอากาศในช่วงค่ำของวันพฤหัสบดี ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้ทุกคนเห็นชัดเจนเกี่ยวกับทัศนคติอันแท้จริงของรัสเซียเกี่ยวกับสถาบันโลก เกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรัสเซียที่จะทำให้ UN ได้รับความอับอาย และทุกสิ่งที่องค์การสากลแห่งนี้พยายามนำเสนอ … ดังนั้น (รัสเซีย) จึงควรได้รับการโต้ตอบอย่างสุดกำลังกลับไป”
ขณะเดียวกัน วิตาลี คลิตช์โค นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เป็นวิธีของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในการ “ชูนิ้วกลาง” ให้กับ เลขาธิการใหญ่ UN นั่นเอง
การเดินทางเยือนยูเครนเป็นเวลา 2 วันของ เลขาธิการใหญ่ กูเทอเรซ นั้น นอกจากจะเพื่อตรวจสอบความเสียหายด้วยตาตนเองและร่วมประชุมกับปธน.เซเลนสกีแล้ว ยังมีจุดประสงค์ที่จะหาทางจัดเส้นทางและกระบวนการอพยพผู้คนออกจากเมืองมาริอูโพล เมืองท่าสำคัญของยูเครน ที่คาดว่ายังคงติดค้างอยู่ราว 100,000 คนออกมายังพื้นที่ปลอดภัยให้ได้
รายงานข่าวระบุว่า การโจมตีครั้งนี้นับเป็นการใช้กำลังทหารถล่มกรุงเคียฟที่อาจหาญที่สุดนับตั้งแต่เมื่อครั้งที่กองทัพมอสโกถอยทัพไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน หลังจากไม่สามารถรุกคืบเข้ามายึดเมืองหลวงของยูเครนได้
ในเวลานี้ รัสเซียกำลังเร่งส่งกองทัพเข้าจัดการกับแคว้นดอนบาส ซึ่งเป็นภูมิภาคอุตสาหกรรมทางภาคตะวันตกของยูเครน และเป็นพื้นที่ที่ทำเนียบเครมลินระบุว่า เป็นเป้าหมายหลักของตน อยู่
โวโลดิเมียร์ เฟเซนโก นักวิเคราะห์การเมืองชาวยูเครนและผู้บริหารของสำนักวิจัย Penta Center ในกรุงเคียฟ กล่าวว่า การโจมตีใส่กรุงเคียฟนั้น เป็นการส่งสารที่ระบุว่า “รัสเซียกำลังพยายามส่งสัญญาณอันชัดเจนเกี่ยวกับความตั้งใจของตนที่จะเดินหน้าทำสงครามต่อไป โดยไม่สนแรงกดดันจากนานาชาติ”
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการของแคว้นดเนียโพรเพทรอฟสก์ ในภาคกลางของยูเครน รายงานว่า รัสเซียยิงจรวดใส่พื้นที่เมือง 2 แห่งในแคว้นนี้ในวันศุกร์ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งความเสียหายออกมา
ทางด้านรัสเซียนั้น ผู้ว่าการแคว้นเคิร์สก เปิดเผยว่า จุดผ่านแดนจุดหนึ่งที่ติดกับยูเครนถูกปืนใหญ่จากกองกำลังยูเครนยิงถล่ม ก่อนที่กองทัพรัสเซียจะยิงโต้ตอบกลับไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในฝั่งรัสเซียจากเหตุการณ์ครั้งนี้
- ที่มา: เอพี