เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางเยือนยูเครนในวันพฤหัสบดี และร่วมตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่หลายเมืองที่เสียหายหนักจากภาวะสงครามที่ดำเนินมากว่า 2 เดือนแล้ว
อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า สงครามที่เกิดขึ้น “คือ ความเสียหายที่รุนแรงที่สุดที่พลเรือนต้องเป็นผู้รับกรรม” หลังเดินทางไปยังเมืองโบโรเดียนกา เมืองเออร์พิน และเมืองบูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการพบศพพลเรือนเกลื่อนกลาดหลังจากกองทัพรัสเซียถอนตัวออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว และทำให้เกิดกระแสเรียกร้องการสอบสวนกรณีอาชญากรรมสงครามของรัสเซีย
เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นยังได้เรียกร้องให้รัสเซียให้ความร่วมมือกับการสอบสวนดังกล่าวที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ริเริ่มขึ้น โดยระบุว่า “ข้าพเจ้าสนับสนุน ICC อย่างเต็มที่ และขอร้องให้สหพันธรัฐรัสเซียยอมรับ และร่วมมือกับ ICC” และว่า “แต่ถ้าเราจะพูดถึงอาชญากรรมสงคราม เราไม่อาจลืมได้ว่า อาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดนั้นก็คือ ตัวสงครามนั่นเอง”
ในส่วนของจุดประสงค์การเยือนยูเครนในครั้งนี้ กูเทอเรซ กล่าวว่า ตนต้องการจะ “ขยายความสนับสนุนด้านมนุษยธรรม และผลักดันการอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเด็นที่ได้นำเสนอกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ระหว่างการเยือนรัสเซียเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นทวีตข้อความออกมาด้วยว่า “ยิ่งสงครามนี้สิ้นสุดลงเร็วเท่าใด ยิ่งจะเป็นการดีต่อยูเครนรัสเซียและโลกเท่านั้น”
การขยายสมาชิกภาพ นาโต้
ขณะเดียวกัน เยนส์ ชโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า การสนับสนุนทางการทหารต่อยูเครนทั้งที่พันธมิตรนาโต้ให้สัญญาหรือส่งมอบไปแล้วมีมูลค่ารวมถึง 8,000 ล้านดอลลาร์แล้ว
นอกจากนั้น สงครามที่เริ่มต้นจากการรุกรานของรัสเซียยังผลักดันให้ฟินแลนด์และสวีเดนหันมาพิจารณาว่า จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้ดีหรือไม่ ซึ่ง ชโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า หากทั้งสองประเทศเลือกที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับกลุ่มพันธมิตรทางทหารนี้ กระบวนการต่างๆ จะสรุปเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม รัสเซียออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านกรณีที่ฟินแลนด์และสวีเดนจะเข้าร่วมนาโต้อย่างชัดเจน โดยระบุว่า หากทั้งสองประเทศเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรนี้ รัสเซียจะติดตั้งระบบยิงอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่แคว้นคาลินินกราด ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลบอลติก และเป็นเหมือนเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างรัสเซียกับฟินแลนด์และสวีเดน
แต่เลขาธิการนาโต้ระบุว่า “ประเด็นนี้เป็นเรื่องสิทธิพื้นฐานของทุกประเทศในยุโรปที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตน” และว่า “หากรัสเซียจะทำการข่มขู่ คุกคาม ฟินแลนด์และสวีเดน ไม่ให้ทำการสมัครสมาชิก นั่นก็แสดงให้เห็นว่า รัสเซียไม่ได้เคารพสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของทุกประเทศในการเลือกทางเดินของตนเท่าใดเลย”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ และเอเอฟพี