ฟิลิปปินส์ยืนยันในวันอังคารว่า จะไม่ยอมถอยจากการเผชิญหน้าสืบเนื่องจากความพยายามของจีนในการกีดขวางไม่ให้เรือประมงฟิลิปปินส์เข้าไปในพื้นที่ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ขณะที่จีนข่มขู่รัฐบาลกรุงมะนิลาว่าอย่า "ยั่วยุและสร้างปัญหา" ตามรายงานของรอยเตอร์
ท่าทีล่าสุดของสองประเทศมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งของฟิลิปปินส์ได้ตัดเชือกผูก 'ด่านลอยน้ำ' ความยาว 300 เมตรที่จีนนำมาติดตั้งไว้ที่บริเวณแนวสันดอนสการ์โบโรห์ โชล (Scarborough Shoal) ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ทางทะเลที่มีความขัดแย้งมากที่สุดในเอเชีย
ฟิลิปปินส์เรียกการตอบโต้ดังกล่าวว่า "ปฏิบัติการพิเศษ" โดยให้เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ชายฝั่งปลอมตัวเป็นชาวประมงไปกับเรือหาปลาลำเล็ก ก่อนที่จะดำน้ำลงไปใช้มีดตัดเชือกใต้ทะเลจนขาด หลังจากได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มากอส จูเนียร์
เจย์ เทอร์ริเอลา โฆษกกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นประจำฟิลิปปินส์ว่า "พวกเขาอาจนำด่านลอยน้ำกลับมาติดตั้งใหม่ และอาจกระทำการที่เป็นอันตรายอีกครั้ง" และว่า "เราได้แสดงให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า ประชาชนฟิลิปปินส์จะไม่ยอมถอย และเราจะยังคงเดินหน้าทำสิ่งที่จำเป็นในการรักษาการดำรงอยู่ของเราอย่างต่อเนื่องต่อไป"
เรือประมงฟิลิปปินส์จอดทอดสมออยู่ในบริเวณแนวสันดอนสการ์โบโรห์ โชล ในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2023
สันดอนโขดหินสการ์โบโรห์ โชล มีความยาวรวม 200 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ โดยพื้นที่นี้เกิดข้อพิพาทที่นำมาซึ่งความขัดเเย้งเป็นระยะ ๆ เรื่องอธิปไตยและสิทธิ์ทำการประมง
จีน ซึ่งเรียกแนวหินนี้ว่า 'เกาะหวงหยาน' กล่าวหาฟิลิปปินส์ว่า "ล่วงล้ำ" น่านน้ำของจีน พร้อมเตือนให้รัฐบาลกรุงมะนิลาอย่างทำการยั่วยุ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวังเหวินปิน กล่าวในวันอังคารว่า "จีนขอรักษาสิทธิ์เหนืออธิปไตยและน่านน้ำรอบเกาะหวงหยาน และขอแนะนำฟิลิปปินส์ว่าอย่ายั่วยุและสร้างปัญหา"
ความตึงเครียดครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลกรุงมะนิลากระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ รวมถึงการอนุญาตให้สหรัฐฯ สามารถเข้าถึงฐานทัพในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นท่าทีที่ทำให้กรุงปักกิ่งไม่พอใจพร้อมเตือนว่าจะยิ่งสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
- ที่มา: รอยเตอร์