จีน-ฟิลิปปินส์เปิดสายด่วนหวังจบปัญหาเผชิญหน้าในทะเลจีนใต้

แฟ้มภาพ - ภาพจากหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์แสดงให้เห็นช่วงที่เรือยามฝั่งจีนใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงเข้าใส่เรือฝ่ายตนที่ใกล้สันดอนเซคันด์โธมัสโชล ในทะเลจีนใต้ เมื่อ 5 ส.ค. 2566

ข้อตกลงที่จีนและฟิลิปปินส์เพิ่งร่วมลงนามกันเมื่อเร็ว ๆ นี้มีเงื่อนไขเปิดสายด่วนเพื่อการสื่อสารโดยตรงระหว่างทำเนียบประธานาธิบดีของสองประเทศด้วยจุดประสงค์ที่จะพยายามป้องกันการเผชิญหน้าในพื้นที่พิพาทของทะเลจีนใต้ที่อาจยกระดับจนเหนือการควบคุม ตามการตรวจสอบของสำนักข่าวเอพีในวันอังคาร

ในอดีต จีนและฟิลิปปินส์เคยเปิดสายด่วนฉุกเฉินระหว่างกันในระดับปฏิบัติการมาแล้วเพื่อจัดการปัญหาข้อพิพาทต่าง ๆ ในพื้นที่สันดอนทั้งหลายที่กรุงมะนิลากล่าวหาว่า กรุงปักกิ่งใช้กำลังและทำการเป็นมุ่งร้ายรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต่อตน ขณะที่ จีนกล่าวว่า ฟิลิปปินส์รุกคืบเข้ามาในพื้นที่ของตนแม้จะมีการเตือนอย่างต่อเนื่องแล้ว

การเผชิญหน้าจากประเด็นการพิพาททางอาณาเขตระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นจนเหมือนควบคุมไม่ได้เลยในช่วงปีที่ผ่านมา จนทำให้เกิดกระแสความกลัวว่า จะเกิดการใช้อาวุธต่อสู้ขนานใหญ่ที่อาจดึงสหรัฐฯ เข้ามาร่วมด้วย หลังกรุงวอชิงตันออกมาเตือนต่อเนื่องว่า ตนมีภาระผูกดันที่จะช่วยปกป้องฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นพันธมิตรคู่สนธิสัญญาหลักในเอเชียของตน ถ้าหากกองกำลังของฟิลิปปินส์ตกเป็นเป้าถูกการโจมตีในน่านน้ำที่เป็นพื้นที่พิพาท

ตัวอย่างหนึ่งของปัญหาระหว่างสองประเทศคือ ในการเผชิญหน้าที่สันดอนเซคันด์โธมัสโชล (Second Thomas Shoal) เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2023 รัฐบาลฟิลิปปินส์บอกว่า ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่จีนผ่าน “กลไกสื่อสารทางทะเล” ที่มีการจัดตั้งขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขณะที่ เกิดการปะทะกันขึ้น

โทรศัพท์สายด่วนที่ว่านั้นถูกจัดตั้งขึ้นหลังประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่งในเดือนมกราคม ปี 2023

รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนและฟิลิปปินส์ที่ดูแลปัญหาการพิพาททางอาณาเขตร่วมการหารือสำคัญที่กรุงมะนิลาในวันที่ 2 กรกฎาคม หลังการเผชิญหน้ารุนแรงที่สันดอนเซคันด์โธมัสโชลเมื่อมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยามฝั่งจีนควงมีด ขวานและหอกที่ทำมือขึ้นเองมาประจัญหน้ากับเจ้าหน้าที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีเรือ 2 ลำเสียหาย และกองกำลังจีนยังยึดปืนไรเฟิลของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ไป 7 กระบอกด้วย อ้างอิงข้อมูลของผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ที่เรียกร้องให้จีนส่งยุทโธปกรณ์ทั้งหมดคืนและจ่ายค่าเสียหายด้วย

Your browser doesn’t support HTML5

'จีน - ฟิลิปปินส์' โยนความผิดใส่กันเหตุปะทะในทะเลจีนใต้

หลังการหารือครั้งนั้น กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาว่า ทั้งสองฝ่าย “รับรู้ถึงความจำเป็นของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลไกการสื่อสารทางทะเลในระดับทวิภาคีสำหรับพื้นที่ทะเลจีนใต้” และได้ลงนามในเอกสารว่าด้วย “การปรับปรุงการสื่อสารทางทะเลระหว่างฟิลิปปินส์และจีน”

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ไม่ได้ส่งสำเนาแถลงการณ์ที่มีรายละเอียดครบถ้วนให้กับผู้สื่อข่าว

แต่เอพีได้ตรวจสอบสรุปไฮไลท์ของข้อตกลงระหว่างสองประเทศและพบว่า มี “การจัดตั้งช่องทางสื่อสารหลายช่องระหว่างฟิลิปปินส์และจีน โดยเฉพาะประเด็นทางทะเล ผ่านตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำของตน”

ข้อตกลงนี้ยังระบุด้วยว่า มีแผนที่จะจัดตั้งช่องทางการสื่อสารใหม่ระหว่างยามฝั่งจีนและฟิลิปปินส์ “ทันทีที่บันทึกความเข้าใจที่สอดคล้องกัน” ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้น ในการหารือเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่กรุงมะนิลา จีนและฟิลิปปินส์ตกลงยอมรับ 2 ขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับการเสริมสร้างความมั่นใจระหว่างกัน เพื่อกระชับ “ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานยามฝั่งของทั้งกันและกัน” และอาจจะมีการจัดการประชุมสภาผู้นำด้านวิชาการและวิทยาศาสตร์ของสองประเทศด้วย

แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวเสริมว่า จีนและฟิลิปปินส์ “ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะลดระดับความตึงเครียดโดยไม่มีอคติใด ๆ ต่อจุดยืนของแต่ละฝ่าย” และว่า “มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการพัฒนามาตรการเพื่อจัดการสถานการณ์ทางทะเล” แต่ก็ยอมรับว่า “ยังมีประเด็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญอยู่

  • ที่มา: เอพี