การเผชิญหน้าระหว่างเรือของกองทัพจีนและเรือของฟิลิปปินส์ รวมทั้งสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยกสูงขึ้นในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เป็นจุดพิพาทในช่วงที่ผ่านมา คือภาพที่ทั่วโลกคุ้นตาจากการได้เห็นและได้ยินอยู่บ่อย ๆ
และขณะที่เหตุการณ์ต่าง ๆ นั้นทำให้แทบไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับสรรพกำลังทางทหารของจีนที่มีเหนือฟิลิปปินส์เลย กรุงมะนิลาเชื่อว่า ตนมีความได้เปรียบในเรื่องที่จีนไม่มี ซึ่งก็คือ มุมมองการเล่าเรื่องที่ทำให้คนเห็นใจมากกว่า ตามความเห็นของ พลเรือจัตวาเจย์ ทาร์ริเอลา โฆษกของหน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์
พลเรือจัตวา ทาร์ริเอลา เป็นหนึ่งในขณะทำงานของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่มีหน้าที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งเพื่อต่อกรกับความได้เปรียบทางการทหารของจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลมะนิลาเรียกว่า “โครงการสร้างความโปร่งใส” (transparency campaign) อันมีจุดมุ่งหมายในการฉีกหน้าจีนด้วยการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เรือจีนระรานราวีตน ในแบบเกือบจะเป็นเรียลไทม์ หรือ เวลาที่เกิดเหตุขึ้นจริง ๆ รวมทั้งการนำผู้สื่อข่าวลงเรือของตนไปด้วยเพื่อเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์
ด้วยเหตุนี้ ประเด็นการฉีกหน้าจีนจึงกลายมาเป็นหัวข้อสนทนาร้อนแรงตามรายการทอล์กโชว์และในหมู่นักการเมืองฟิลิปปินส์ ทั้งยังทำให้นานาประเทศแสดงจุดยืนสนับสนุนกรุงมะนิลาด้วย
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ยอมรับว่า ไม่มีใครแน่ใจว่า การออกข่าวที่ทำให้ภาพลักษณ์ของจีนดูแย่เพียงอย่างเดียวจะส่งผลให้การป้องปรามการรุกรานของจีนลดลงได้หรือไม่ ในขณะที่ กรุงปักกิ่งยังคงเดินหน้าประกาศศักดาในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า จีนรู้สึกว่าตนถูกบีบให้ต้องลดความดุดันในทะเลลงหรือไม่ แม้ ทาร์ริเอลา จะอ้างว่า จีนได้สั่งถอนสิ่งที่ฟิลิปปินส์เรียกว่าเป็น “กลุ่มติดอาวุธในทะเล” กลับหลายครั้งที่มีการถ่ายทอดหรือบันทึกภาพเปิดโปง แต่ขณะเดียวกัน ก็มีการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและวิธีการเดินเรือที่เป็นอันตรายเพิ่มมากขึ้นด้วย
เรย์ พาวเวลล์ อดีตนายทหารยศพันเอกแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เกษียณตัวไปแล้ว และปัจจุบันทำงานที่ศูนย์ Gordian Knot Center for National Security Innovation แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เชื่อว่า จีนกำลังยกระดับการดำเนินการของตน และบอกกับ วีโอเอ ว่า “สิ่งที่ต้องรอดูต่อไปก็คือ การทำให้จีนเสียชื่อเสียงนั้นรุนแรงมากพอจะทำให้กรุงปักกิ่งหยุดทำการต่าง ๆ หรือ จีนจะเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ตนดำเนินการมาตลอดจะมากพอที่จะทำให้กรุงมะนิลาเลิกเดินเรือเข้ามาในเส้นทางที่มีปัญหา กันแน่”
ถึงกระนั้น กลยุทธ์ทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ แต่ยังทำให้ผู้ที่ติดตามรู้สึกเข้าใจหลักการด้านภูมิศาสตร์อันแสนเลิศลอยนี้ได้มากขึ้นด้วย ตามความเห็นของ โจนาธาน มาลายา ผู้อำนวยการสภาความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์
มาลายา บอกกับ วีโอเอ ว่า “เราต้องการเสรีภาพในการล่องเรือ เราต้องการอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่อิงตามกฎต่าง ๆ [แต่] ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนที่เข้าใจไม่ได้ง่าย ๆ เลย” และว่า “ผู้คนไม่เข้าใจเสียทีเดียวว่า ทั้งหมดนี้แปลว่าอะไร ถ้าเราไม่แสดงให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นตามแนวล่องเรือในทะเล”
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น