หมอกควันพิษในเอเชียกำลังก่อความกังวลต่อปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

หมอกควันพิษในเอเชียกำลังก่อความกังวลต่อปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

รัฐบาลจีนประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศขั้นสูงสุดอีกครั้งในวันจันทร์และวันอังคาร ซึ่งมีผลให้โรงเรียน หน่วยงานรัฐบาล และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ปิดทำการ ขณะที่ปริมาณรถยนต์ที่วิ่งในกรุงปักกิ่งลดลงราวครึ่งหนึ่ง ด้วยการใช้มาตรการรถทะเบียนคู่-คี่ วิ่งสลับวันกัน

ในวันอังคาร เครื่องวัดดัชนีคุณภาพอากาศในกรุงปักกิ่งแสดงตัวเลขมลพิษเกิน 400 ไมโครกรัมต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตร สำหรับอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งหมายความว่าสามารถเข้าสู่ปอดของมนุษย์ได้จากการสูดดมเข้าไป

คุณ Yanzhong Huang แห่งฝ่ายสาธารณสุขของ Council on Foreign Relations ชี้ว่าการที่รัฐบาลจีนประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศขั้นสูงสุดหรือที่เรียกว่า Red Alert นั้น มิได้หมายความว่าอากาศในกรุงปักกิ่งมีมลพิษมากกว่าเดิม แต่มาตรการ Red Alert ช่วยให้สามารถใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมระดับมลพิษได้ โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ที่ช่วยลดปริมาณมลพิษลงอย่างเห็นได้ชัด

Increased Air Pollution in China

ส่วนที่กรุงนิวเดลี รัฐบาลอินเดียก็กำลังเผชิญปัญหาหมอกควันพิษคล้ายกับที่กรุงปักกิ่ง คุณ Anumita Roychowdhury แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมกรุงนิวเดลี กล่าวว่าในฤดูหนาวยิ่งสามารถมองเห็นหมอกควันพิษได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสัมผัสและได้กลิ่นหมอกควันพิษที่ว่านี้ด้วย

ก่อนหน้านี้ รายงานของธนาคารโลกระบุว่าชาวอินเดียในเมืองใหญ่มีอายุขัยสั้นลง เนื่องมาจากมลพิษทางอากาศ ซึ่งสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้แก่อินเดียราว 18,000 ล้านดอลล่าร์ต่อปี

คุณ Roychowdhury อ้างอิงรายงานหลายชิ้นที่ระบุว่า ปัจจุบันเด็กอินเดียในกรุงนิวเดลีราว 1 ใน 3 มีปัญหาเกี่ยวกับปอด ขณะที่อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของเด็กทารกก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ คือประมาณ 1 คนต่อ 1 ชม. ซึ่งเป็นผลมาจากโรคที่เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ

เมื่อวันจันทร์ ศาลสูงนิวเดลีมีคำสั่งให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในการลดระดับมลพิษ ขณะที่รัฐบาลประเทศใกล้เคียงหลายประเทศ เช่น บังกลาเทศและอิหร่าน ต่างประกาศเตือนภัยมลพิษและใช้มาตรการต่างๆในการควบคุมหมอกควันพิษแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า รัฐบาลจีนและอินเดียยังคงไม่สามารถหาวิธีจัดการกับปัญหามลพิษอย่างมีประสิทธิภาพได้ และต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กับทางเลือกในการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม

(ผู้สื่อข่าว Steve Herman รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)