"มอสคาวา” เรือรบหลักในกองเรือรัสเซียในทะเลดำที่แล่นผ่านช่องแคบบอสฟอรัสเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเข้าโจมตียูเครน กลายเป็นความทรงจำในอดีต เพราะเรือลำดังกล่าวเป็นหนึ่งของเรือสำคัญหลาย ๆ ลำที่หน่วยนาวิกโยธินรัสเซียสูญเสียไปในสงครามยูเครน
ขณะนี้ รัสเซียกำลังประสบปัญหาการนำเรือเข้ามาสับเปลี่ยนเพื่อคงความแข็งแกร่งของทัพนาวิกโยธิน เนื่องจากรัฐบาลตุรกีประกาศใช้อนุสัญญามองเทรอซ์ (Montreux Convention) เพื่อปิดน่านน้ำและไม่อนุญาตให้เรือรบของรัสเซียแล่นผ่านจุดยุทธศาสตร์บริเวณทะเลดำเพื่อเข้าไปถึงยูเครน
ยอรุก อิชิค นักวิเคราะห์แห่งสถาบันวิจัย the Middle East Institute ในกรุงวอชิงตันชี้ว่า “ตุรกีปิดช่องแคบทั้งสอง ทั้งบอสฟอรัส (Bosphorus) และดาดาแนลส์ (Dardanelles) เพื่อสกัดเรือรบรัสเซีย จึงทำให้รัสเซียไม่สามารถเอาเรือรบใหม่ๆเข้าไปเสริมทัพได้ และจำต้องใช้เรือเก่าๆของกองเรือที่ยังเหลือและแล่นอยู่ในทะเลดำเพื่อไปสู้กับยูเครนเท่านั้น”
นอกจากนี้ หุ่นยนต์โดรนที่ประกอบในประเทศตุรกีซึ่งทหารยูเครนใช้โจมตีกองกำลังรัสเซียทางอากาศอย่างหนักหน่วงนั้นยังถือเป็นการสกัดความสามารถในการชนะสงครามของรัสเซียอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรเสีย ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลทำเนียบเครมลิน เลือกที่จะไม่ตำหนิตุรกี พร้อมยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของสองประเทศอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม และประธานาธิบดีตุรกี เรจิบ เทยิบ เออโดวาน ได้มีการสนทนากับผู้นำรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูติน ผ่านทางโทรศัพท์เพื่อช่วยลดความตึงเครียดและไกล่เกลี่ยสถานการณ์สงครามแล้วด้วย
แซมวล เบนเด็ด นักวิเคราะห์ผู้ศึกษาประเทศรัสเซียของสถาบัน CNA ในสหรัฐฯ อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “รัสเซียไม่ต้องการให้ตุรกีตีตัวออกห่างจากการรับบทบาทผู้ไกล่เกลี่ย และตุรกีนั้นยังเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่เหลืออยู่ในตอนนี้ที่พร้อมจะประสานงานและปฏิบัติกับรัสเซียในระดับที่เกือบจะเท่าเทียมกัน ท่ามกลางมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและการต่อต้านรัสเซียจากนานาชาติ”
หากมองย้อนไปในอดีต รัสเซียมักใช้ความแข็งแกร่งและการประจำการของกองกำลังทหารในประเทศซีเรียเพื่อข่มตุรกีและขู่ว่าจะทำการผลักดันให้ผู้ลี้ภัยสงครามในภูมิภาคดังกล่าวให้หลั่งไหลไปตุรกี
แต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กำลังร้อนระอุนั้น กำลังกลายมาเป็นไพ่ใบใหม่ที่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนดุลในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศนี้แล้ว
อาสลิ อายดินทาสบาส นักวิเคราะห์จากสมาคม European Council on Foreign Relations กล่าวว่า “ตุรกีมีไพ่ที่เหนือกว่ารัสเซียแล้วในตอนนี้ ในอดีตนั้น รัสเซียมีวิธีแสดงความไม่พอใจต่อตุรกี เช่น การทิ้งระเบิดในบางจุดในซีเรีย หรือการทำอะไรต่าง ๆ ในประเทศลิเบีย แต่ตอนนี้มันยากที่รัสเซียจะข่มขู่ด้วยวิธีข้างต้น เพราะเครมลินต้องการให้ตุรกีคงสถานะความสัมพันธ์ที่กึ่ง ๆ เป็นกลางอยู่ ซ้ำตุรกียังช่วยพยุงเศรษฐกิจรัสเซียได้และเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางขนส่งสิ่งต่างๆด้วย”
ดังนั้น การสัญจรของเรือรัสเซียไปมาอย่างอิสระในช่องแคบของตุรกีซึ่งได้กลายเป็นอดีตไปแล้วนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งทางกองเรือรัสเซีย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่ค่อยๆปรับลดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างรัสเซียและตุรกีด้วย
- ที่มา: วีโอเอ