ทนายความของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ยังไม่สามารถหาเงินมาวางเป็นหลักประกันมูลค่า 454 ล้านดอลลาร์เพื่อเปิดทางให้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาลงโทษในคดีฉ้อโกงได้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ในเวลานี้ ทรัมป์ต้องหาเงินสดมาจ่ายหรือวางหลักประกันมูลค่าดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดการอายัดทรัพย์ระหว่างที่เดินหน้ายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของตุลาการอาร์เธอร์ เอ็นโกรอน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่สั่งให้อดีตปธน.สหรัฐฯ และจำเลยร่วมทั้งหมดชำระเงินจำนวน 464 ล้านดอลลาร์พร้อมดอกเบี้ยเนื่องจากกระทำความผิดในการแจ้งมูลค่าสินทรัพย์ของตนไม่ตรงความจริง เพื่อหลอกลวงสถาบันการเงินและบริษัทประกัน
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลในวันจันทร์ ทนายของทรัมป์ร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ของรัฐนิวยอร์กเลื่อนการบังคับใช้คำพิพากษาดังกล่าวไปก่อน โดยอ้างว่า จำนวนเงินที่ว่านั้นสูงเกินจริงไป พร้อมกล่าวว่า จำเลยได้ติดต่อบริษัทที่ให้บริการค้ำประกัน (surety company) ราว 30 แห่งเพื่อมาใช้ในการวางหลักประกันอยู่
ทนายความของทรัมป์ยังระบุด้วยว่า “การบังคับให้มีการวางหลักประกันในระดับที่เป็นไปไม่ได้นี้ ให้เป็นเงื่อนไขเพื่อให้ทำการยื่นอุทธรณ์ได้ มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดที่จะเยียวยาไม่ได้ให้กับจำเลยทั้งหมด” ทั้งยังมีการต่อรองให้ลดมูลค่าหลักประกันให้เหลือ 100 ล้านดอลลาร์แทน
หากทรัมป์ยื่นอุทธรณ์และแพ้ และไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ บริษัทค้ำประกันเหล่านั้นที่ยอมเซ็นรับรองให้ก็จะต้องรับภาระชำระเงินค่าปรับทั้งหมดแทน
ทั้งนี้ อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิดดังที่ศาลตัดสิน ในคดีที่อัยการรัฐนิวยอร์ก เลทิเชีย เจมส์ เป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลระดับรัฐของนิวยอร์กในนครแมนฮัตตัน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์เพิ่งวางเงินค้ำประกันจำนวน 91.6 ล้านดอลลาร์ซึ่งครอบคลุมคำสั่งลงโทษมูลค่า 83.3 ล้านดอลลาร์ในคดีหมิ่นประมาทที่ต้องจ่ายให้กับ อี. จีน แคร์รอลล์ ผู้เป็นคู่กรณี เนื่องจากทรัมป์เรียกนักเขียนชาวอเมริกันผู้นี้ว่าเป็น คนโกหก ที่ออกมากล่าวหาตนว่าข่มขืนเธอเมื่อหลายสิบปีก่อน
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น