เส้นทางการเมืองของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าใกล้จุดที่ทั้งคู่มีโอกาสลงเลือกตั้งเเข่งกันอีกครั้งเช่นเดียวกับเมื่อปี 2020 หลังจากที่ในคืนวันอังคารที่ผ่านมาทั้งคู่ทราบผลการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคของหลายรัฐ
ในวันสำคัญของเลือกตั้งขั้นต้น ที่เรียกว่า 'ซูเปอร์ทิวส์เดย์' ที่ 15 รัฐและ 1 เขตปกครองให้สมาชิกพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันลงคะเเนนเลือกตัวเเทน ทั้งไบเดนและทรัมป์ชนะอย่างขาดลอยในการเเข่งขันภายในพรรคของเเต่ละคน
ส่วน นิกกี เฮลีย์คู่เเข่งหลักเพียงหนึ่งเดียวของทรัมป์ในพรรคประกาศ "ระงับ" การลงเเข่งเป็นตัวแทนรีพับลิกัน
ไบเดนกวาดเสียงได้ทั้ง 15 รัฐ เช่นในเวอร์จิเนีย เท็กซัส มินนิโซตาและโคโลราโด ขาดเเต่เฉพาะเขตปกครองซามัว ที่เขาพ่ายเเพ้ต่อเจสัน พาล์เมอร์ ที่เคยทำงานภาคธุรกิจและองค์กรไม่เเสวงหาผลกำไร
ทรัมป์ชนะใน 14 รัฐ ซึ่งรวมถึงยูทาห์ เมน แคลิฟอร์เนีย และนอร์ธแคโรไลนา แต่ในรัฐเวอร์มอนต์ เขาแพ้ต่อนิกกี เฮลีย์ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ
รัฐยูทาห์เป็นรัฐสุดท้ายที่รอประกาศผล เมื่อเวลาล่วงเลยถึงวันพุธ
ในถ้อยเเถลงของไบเดน เขาเเสดงท่าทีว่ากำลังมองไปไกลถึงการลงชิงตำแหน่งกับทรัมป์แล้ว โดยระบุว่าหากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่ง การบริหารประเทศจะมีภาพ "ความโกลาหล ความเเตกแยก และความมืดมิด"
"วันนี้ ผู้ใช้สิทธิหลายล้านคนทั่วประเทศส่งเสียงออกมาชัดเจนว่า พวกเขาพร้อมที่จะสู้กลับต่อแผนการสุดโต่งของทรัมป์ที่จะดึงเราถอยหลังลง" ไบเดนกล่าวในเเถลงการณ์
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สนับสนุนในฟลอริดา ว่าประเทศ "ทรุดหนักครั้งใหญ่" ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเขาชี้ว่าไบเดนบริหารงานผิดพลาดเรื่องเศรษฐกิจและนโยบายคนเข้าเมือง
ทรัมป์ ผู้ที่เเพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีต่อไบเดนเมื่อปี 2020 ฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นซูเปอร์ทิวส์เดย์ของพรรครีพับลิกัน พร้อมระบุว่า ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน จะเป็น "วันเดียวที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้"
สำหรับเฮลีย์ ชัยชนะในรัฐเวอร์มอนต์เมื่อวันอังคาร เกิดขึ้นหลังจากที่เธอกำชัยในการเลือกตั้งขั้นต้นที่กรุงวอชิงตันในวันวันอาทิตย์
หลังจากที่เธอพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่องในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เฮลีย์ได้กล่าวว่าจะยืนยันที่สู้ต่อไป อย่าน้อยจนถึงซูเปอร์ทิวส์เดย์
และในที่สุดเมื่อวันพุธหลังทราบผลของซูเปอร์ทิวส์เดย์ เธอกล่าวที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาธ์คาโรไลนา วันพุธว่า "ฉันอิ่มเอมไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจจากแรงสนับสนุนที่หลั่งไหลมาจากทั่วประเทศ... เเต่ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องระงับการหาเสียง"
เฮลีย์เคยกล่าวต่อผู้สนับสนุนว่า การบริหารประเทศภายใต้ทรัมป์อีกสมัยจะสร้างความเสียหายต่อประเทศ และในวันพุธเธอก็ไม่ได้ประกาศสนับสนุนทรัมป์ให้เป็นตัวเเทนพรรคเช่นกัน
“ในเวลานี้ขึ้นอยู่กับทรัมป์ ที่จะให้ได้มาซึ่งคะเเนนเสียงจากคนในพรรคของเรา รวมทั้งคนอื่น ๆ ที่ยังไม่สนับสนุนเขา และฉันหวังว่าเขาจะทำเช่นนั้น" เฮลีย์เเถลงในวันพุธ
"การเมืองในจุดที่ดีที่สุด จะสามามารถนำพาคนมาร่วมอุดมการณ์ ไม่ใช่ผลักไสคนออกไป และอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมของเราต้องการคมเพิ่มขึ้นอย่างมาก" เธอกล่าว
ต่อจากนี้ยังมีอีกหลายรัฐ ที่จะจัดการเลือกตั้งขั้นต้น โดยไบเดนและทรัมป์ต่างต้องการได้จำนวนเสียงเพียงพอสำหรับการได้เป็นตัวเเทนฝ่ายตน ก่อนการประชุมใหญ่ของพรรค ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมสำหรับเดโมเเครต และกรกฎาคมสำหรับรีพับลิกัน
แม้ทรัมป์กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาอาญาจาก 4 คดี ที่ต้องการเอาผิดเขาใน 91 กระทง แต่การสำรวจความเห็นของประชาชน ชี้ว่าเขามีคะเเนนิยมเหนือไบเดนเล็กน้อย ขณะที่ยังเหลือเวลา 8 เดือนก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี
ในคืนวันพฤหัสบดี ไบเดนมีกำหนดแถลงนโยบายและผลงาน ในสุนทรพจน์ State of the Union ต่อสภา ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ
คาดว่าไบเดนจะกล่าวถึงผลงานด้านเศรษฐกิจจากการบริหารประเทศมากว่า 3 ปีของตน เเม้ว่าผลโพลล์ชี้ว่าคนอเมริกันจำนวนมากไม่คิดว่าเขาทำงานด้านนี้ได้ดีนัก และประชาชนมักแสดงความกังวลเรื่องราคาสินค้าที่เเพงขึ้น
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์ และเอพี