องค์กรต่อต้านนิวเคลียร์ เผยรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า 9 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ทุ่มเงินรวมกันกว่า 91,400 ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ย 3,000 ดอลลาร์ต่อวินาที ในการ “เสริมสร้างความทันสมัย และในบางกรณีคือการเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์” เมื่อปีที่แล้ว
ในรายงานนี้ยังชี้ว่า ในปี 2023 มหาอำนาจด้านนิวเคลียร์โลก ทุ่มงบเพิ่มขึ้น 10,700 ล้านดอลลาร์ในอาวุธนิวเคลียร์ มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2022
รายงานของ ICAN ชี้ว่าสหรัฐฯ ทุ่มงบ 51,500 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีก่อน ซึ่ง “มากกว่าประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกมารวมกัน” รองลงมาคือ จีน ที่ทุ่มงบ 11,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนรัสเซียมาเป็นอันดับ 3 ที่ 8,300 ล้านดอลลาร์ ด้านอังกฤษมี “การใช้จ่ายด้านนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว” โดยทุ่มงบราว 8,100 ล้านดอลลาร์ตามหลังรัสเซียมาที่อันดับ 4
ส่วน 5 ชาติที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ อย่างฝรั่งเศส อินเดีย อิสราเอล ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ ทุ่มงบรวมกันราว 11,600 ล้านดอลลาร์สำหรับอาวุธนิวเคลียร์ในปีก่อน
อาลิเซีย แซนเดอร์ส-ซาเคอร์ ผู้ร่วมเขียนรายงานของกลุ่มรณรงค์เพื่อการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ หรือ ICAN ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า “เงินก้อนนี้กำลังสูญเปล่าไปอย่างไร้ประโยชน์เมื่อพิจารณาว่าประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองเห็นชอบว่าสงครามนิวเคลียร์เป็นสมรภูมิที่ไม่มีทางชนะและไม่ควรมีการต่อสู้เสียด้วยซ้ำ”
ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ ยกตัวอย่างว่า เงิน 91,400 ล้านดอลลาร์ต่อปี “สามารถใช้เป็นเงินทุนโครงการไฟฟ้าพลังงานลมกับบ้านเรือนกว่า 12 ล้านแห่ง เพื่อช่วยต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน หรือใช้เป็นงบกองทุนโลกได้ถึง 27% ในการต่อสู้กับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ ปกป้องระบบนิเวศ และลดการปล่อยมลพิษในระดับโลก”
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น