ปูตินถึงจีน! เตรียมหารือสี - ร่วมประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เดินทางถึงกรุงปักกิ่งในวันอังคาร เพื่อเข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในโอกาสครบรอบ 10 ปี โครงการหนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทาง หรือ BRI (Belt and Road Initiative) ของจีน

ทำเนียบรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า ปธน.ปูติน และปธน.สี มีกำหนดหารือทวิภาคีนอกรอบจากการประชุมดังกล่าว ในวันพุธนี้

ปธน.ปูติน จะร่วมการประชุมหนึ่งแถบ-หนึ่งเส้นทาง ที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นการเดินทางออกนอกดินแดนของอดีตสหภาพโซเวียตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปูตินถูกออกหมายจับโดยศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ผู้นำรัสเซียและจีนประกาศความร่วมมือ 'ไร้ขีดจำกัด' ระหว่างที่ปูตินเยือนกรุงปักกิ่ง ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะส่งทหารหลายหมื่นคนเข้าไปในยูเครน จนก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

ที่ผ่านมา จีนปฏิเสธการประณามรัสเซียและพยายามวางตัวเป็นกลางในสงครามยูเครน พร้อมเสนอความช่วยเหลือด้านการทูตและการเงินแก่รัฐบาลกรุงมอสโก

ความสัมพันธ์ระหว่างปูตินกับสีเป็นไปอย่างใกล้ชิด โดยทั้งคู่ต่างเรียกกันและกันว่า "เพื่อนรัก" และก่อนการเยือนจีน ปธน.ปูติน ให้สัมภาษณ์กับสื่อของทางการจีน CGTN ยกย่องความสัมพันธ์รัสเซีย-จีน พร้อมชมเชยโครงการ BRI ของจีนว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง

งานประชุมท่ามกลางความขัดแย้ง

จีนเริ่มต้อนรับผู้แทนจาก 130 ประเทศเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่การประชุมอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในวันอังคารนี้ โดยทางการจีนหมายมั่นว่างานประชุมและฉลองครบรอบ 10 ปีของโครงการลงทุนขนาดมหึมาของจีนเพื่อเชื่อมเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ไว้ด้วยกันนี้ จะช่วยยกระดับจีนบนเวทีโลกได้

อย่างไรก็ตาม งานประชุมใหญ่นี้กลับถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ ซึ่งทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน ไร้ที่อยู่อาศัยอีกนับล้านคน

รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ประณามการโจมตีของอิสราเอลว่า "รุนแรงเกินกว่าการป้องกันตนเอง" และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซ่า "อิสราเอลควรรับฟังเสียงเรียกร้องของประชาคมโลก และหยุดลงโทษประชาชนในกาซ่า"

ทางด้านประเทศตะวันตกต่างวิจารณ์ท่าทีของรัฐบาลจีนที่ไม่ออกมาประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ขอให้จีนใช้ "อิทธิพล" ในตะวันออกกลาง กดดันให้เกิดความสงบโดยเร็ว

• ที่มา: วีโอเอ / ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์