ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน จะพบหารือกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่งในเดือนตุลาคมนี้ จากการเปิดเผยของทางการรัสเซียในวันอังคาร ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของผู้นำรัสเซียหลังจากถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับเมื่อต้นปีนี้
สำนักข่าว Interfax รายงานว่า นิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการประจำสภาความมั่นคงรัสเซียและเป็นบุคคลใกล้ชิดของปูติน กล่าวว่า รัสเซียและจีนควรเพิ่มความร่วมมือยิ่งขึ้นเพื่อต้านทางความพยายามของชาติตะวันตกที่ต้องการควบคุมจำกัดอิทธิพลของสองประเทศ และว่า การหารือที่กรุงปักกิ่งในเดือนหน้าจะเป็นไปอย่าง "ละเอียดถี่ถ้วน"
การหารือระหว่างผู้นำรัสเซียกับจีนจะมีขึ้นระหว่างการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ครั้งที่สาม ซึ่งประธานาธิบดีปูตินจะเข้าร่วมตามคำเชิญของประธานาธิบดีสีเมื่อเดือนมีนาคม
เมื่อต้นปีนี้ ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี (International Criminal Court) ออกหมายจับปูตินจากข้อกล่าวหาว่า นำตัวเด็กหลายร้อยคนไปจากเมืองต่าง ๆ ในยูเครนอย่างผิดกฎหมายระหว่างปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ซึ่งทางการกรุงมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวนี้
ไม่กี่วันก่อนที่จะรัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ประธานาธิบดีปูตินเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง และได้ประกาศ "ความเป็นพันธมิตรแบบไร้ข้อจำกัด" กับจีน แม้ต่อมาทางการจีนยืนยันว่าสิ่งนี้มิได้หมายถึงความร่วมมือทางทหารก็ตาม
ปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศนี้เพิ่มขึ้น 30% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ตลอดทั้งปีนี้ อ้างอิงจากคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจรัสเซีย แมกซิม เรเชตนิคอฟ ที่ยืนยันสนับสนุนความร่วมมือในการลงทุนด้านพลังงานและเทคโนโลยีของสองประเทศ ที่ระบุไว้ระหว่างการเยือนจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้
เมื่อต้นปี วิลเลียม เบินส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ กล่าวว่า รัสเซียกำลังพึ่งพาจีนทางเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็น "อาณานิคมทางเศรษฐกิจ" ของจีนในอีกไม่นานนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น