รัสเซียขีดเส้นตายห้ามเรือสินค้าแล่นผ่านทะเลดำตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป และไม่รับประกันความปลอดภัยในการเดินเรือบริเวณน่านน้ำสากลในทะเลดำ ขณะที่ยูเครนกล่าวหารัสเซียในวันพุธว่าเข้าทำลายท่าเรือบริเวณทะเลดำ 2 แห่ง ที่ใช้สำหรับการส่งออกธัญพืชต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุผ่านทางเทเลแกรมว่า หลังพ้นกำหนดเวลา 00.00 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลากรุงมอสโก รัสเซียจะถือว่าเรือทุกลำที่เดินทางไปยังท่าเรือยูเครนในทะเลดำ เข้าข่ายเป็นเรือบรรทุกสินค้าด้านการทหารทั้งหมด และรัฐเจ้าของเรือเหล่านั้นจะถือว่าเป็นพันธมิตรยูเครนในวงจรความขัดแย้งนี้ด้วย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศด้วยว่า น่านน้ำสากลบริเวณตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลดำ ถือว่าไม่ปลอดภัยต่อการเดินเรือเป็นการชั่วคราว โดยที่ไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพื้นที่ส่วนใดบ้างจะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้
รัสเซียระงับการเข้าร่วมในข้อตกลงฉบับสำคัญของสหประชาชาติว่าด้วยการเปิดทางให้ธัญพืชจากยูเครนสามารถขนส่งผ่านทางทะเลดำเมื่อวันจันทร์ เรียกเสียงประณามและสร้างความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตอาหารโลกรอบใหม่
ด้านยูเครนระบุว่า ได้เปลี่ยนเส้นทางขนส่งธัญพืชไปยังโรมาเนียเป็นการชั่วคราว หลังรัสเซียระงับข้อตกลงนี้ อ้างอิงจากจดหมายที่ทางยูเครนแจ้งต่อสหประชาชาติในวันพุธ
สำหรับสถานการณ์ในยูเครน รัสเซียโจมตีโอเดสซาต่อเนื่องเป็นค่ำคืนที่ 2 ทางการยูเครนให้ข้อมูลว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 10 คน และมีเด็กชายอายุ 9 ขวบได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ ส่วนกองทัพอากาศยูเครนรายงานในวันพุธว่ารัสเซียระดมยิงขีปนาวุธและส่งโดรนเข้าโจมตี มุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่ของกองทัพในโอเดสซา
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุผ่านทางแอปฯ เทเลแกรมว่า “ผู้ก่อการร้ายรัสเซียคงใจมุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐานของข้อตกลงด้านธัญพืช” และว่า “ขีปนาวุธรัสเซียทุกลูก – คือการโจมตีไม่เพียงแต่กับยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนบนโลกที่ต้องการชีวิตที่ปกติและปลอดภัย”
ด้านรัสเซียไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากเมื่อวันอังคารรัสเซียระบุว่าได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารบริเวณเมืองท่าเรือ 2 แห่งของยูเครนในการ “โจมตีเพื่อแก้แค้น” เหตุระเบิดที่สร้างความเสียหายให้กับสะพานไครเมีย
อพยพหลายพันหนีไฟไหม้ในไครเมีย
อีกด้านหนึ่งในไครเมีย เกิดเพลิงไหม้สนามฝึกทหารในเขตคิโรฟสกี (Kirovske) เป็นเหตุให้ต้องอพยพผู้คนกว่า 2,000 ชีวิต อ้างอิงจากผู้ว่าการแคว้นไครเมียที่รัสเซียแต่งตั้ง แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว ยูเครนเริ่มต้นปฏิบัติการรุกโต้กลับรัสเซีย เพื่อหวังยึดคืนพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกกลับคืนมา โดยในสัปดาห์นี้ยูเครนระบุว่าการต่อสู้อย่างหนักหน่วงยังดำเนินต่อไปในคาร์คิฟ ขณะที่สื่อ TASS ของรัสเซียรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันพุธว่ากองทัพรัสเซียยึดสถานีรถไฟมอฟชาโนเวในคาร์คิฟไว้ได้แล้ว แต่ทางยูเครนไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้
- ที่มา: รอยเตอร์