ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ $500 ล้าน


FILE - People march with the federal flag as they support National Unity Government (NUG) in Yangon, Myanmar, April 18, 2021.
FILE - People march with the federal flag as they support National Unity Government (NUG) in Yangon, Myanmar, April 18, 2021.

กองกำลังฝ่ายแข็งข้อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ขอความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ในรูปของความช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาวุธและสิ่งของบริจาคด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยต่อต้านการปราบปรามของรัฐบาลทหาร รวมถึง เงินทุนสำหรับซื้อโดรน ยานพาหนะหุ้มเกราะ และอุปกรณ์รบกวนเรดาร์

รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมาย Burma Unification through Rigorous Military Accountability Act หรือ BURMA Act เมื่อเดือนธันวาคม โดยระบุถึงการจัดสรรงบประมาณด้านการทหารบางส่วนสำหรับความช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาวุธให้แก่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะหมดอายุลงในเดือนกันยายนนี้พร้อมปีงบประมาณ 2023

ขณะนี้กลุ่มติดอาวุธบางกลุ่มในเมียนมาได้ขอร้องให้รัฐสภาอเมริกัน จัดสรรความช่วยเหลือในรูปแบบที่ว่านั้นมูลค่ารวม 525 ล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณหน้า ซึ่งมากกว่าความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ จัดส่งในปีงบประมาณนี้เกือบ 4 เท่า

คำขอดังกล่าวมาจากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา หรือ NUG (National Unity Government) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักการเมืองพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจเมื่อสองปีก่อน บรรดาคนรุ่นใหม่และนักศึกษาที่ลุกขึ้นจับอาวุธ ร่วมกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ และกลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่น

เชื่อว่าขณะนี้ NUG สามารถยึดครองพื้นที่ในเขตชนบทของเมียนมาได้แล้วราวครึ่งหนึ่ง

NUG กล่าวกับวีโอเอว่า ได้ส่งคำขออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมาธิการของรัฐสภาสหรัฐฯ แล้วเกี่ยวกับความช่วยเหลือที่ว่านี้แล้ว โดยทางวีโอเอพยายามติดต่อสอบถามไปยังสมาชิกคณะกรรมาธิการของรัฐสภา แต่ถูกปฏิเสธหรือยังไม่ตอบกลับ

ที่ผ่านมา NUG ได้ส่งคำขอความช่วยเหลือด้านการทหารไปยังชาติตะวันตกแต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งทำให้กลุ่มต่อต้านมีอาวุธน้อยกว่ารัฐบาลทหารเมียนมาที่สั่งนำเข้าอาวุธและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาวุธมาแล้วราว 1,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 โดยส่วนใหญ่ส่งไปจากรัสเซีย จีน และสิงคโปร์

สำหรับคำขอที่ NUG ส่งไปยังรัฐสภาสหรัฐฯ นั้น รวมถึงงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนราว 1.5 ล้านคนที่ต้องอพยพจากถิ่นที่อยู่เพราะการต่อสู้ และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะทำหน้าที่แทนรัฐบาลทหาร ภายใต้ชื่อ สภาบริหารแห่งรัฐ (State Administration Council)

นอกจากนี้ยังรวมถึงเงินทุน 200 ล้านดอลลาร์สำหรับซื้อโดรน ยานพาหนะหุ้มเกราะ อุปกรณ์รบกวนเรดาร์ เครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์ด้านวิศวกรรมอื่น ๆ ตลอดจนยารักษาโรค

  • ที่มา: วีโอเอ
XS
SM
MD
LG