การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและฮามาสเริ่มต้นอีกครั้งในกาซ่า หลังจากพักรบไป 7 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนตัวประกันและนักโทษ รวมทั้งเปิดทางให้กับการส่งความช่วยเหลือไปยังพลเรือนในกาซ่า
กองทัพอิสราเอล กล่าวในวันศุกร์ว่าการต่อสู้กลับมาใหม่หลังจากที่ฮามาสละเมิดความตกลงพักรบ และยิงจรวจใส่อิสราเอล
อีกด้านหนึ่ง สื่อนิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐฯ ระบุว่าอิสราเอลทราบล่วงหน้าอย่างละเอียดว่าฮามาสมีแผนโจมตีอิสราเอล อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่าแผนดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งที่ฮามาส "หวังไว้ว่าจะให้เกิดขึ้น"
นิวยอร์กไทมส์รายงานว่าเจ้าหน้าที่กองทัพและหน่วยข่าวกรองอิสราเอลทราบถึงแผนดังกล่าวที่ระบุไว้ในเอกสารราว 40 หน้า เป็นเวลากว่า 1 ปีก่อนวันที่ 7 ตุลาคมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งล่าสุดนี้
แต่ไม่เป็นที่ทราบเเน่ชัดว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮูทราบถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ยังไม่มีการเเสดงความเห็นใด ๆ จากรัฐบาลอิสราเอลเกี่ยวกับรายงานของนิวยอร์กไทมส์
เเม้ว่าเกิดการต่อสู้รอบใหม่ ผู้เป็นตัวกลางการเจรจาจากต่างประเทศอย่างเช่น กาตาร์ และสหรัฐฯ ยังคงหารือกันต่อถึงความเป็นไปได้ที่จะให้การโจมตียุติลง
กระทรวงสาธารณสุขกาซ่ากล่าวว่า หลังจากที่การต่อสู้กลับมาอีกครั้ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 คนในช่วงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อการพักรบสิ้นสุดลง
กองทัพอิสราเอลกล่าวผ่านเเพลตฟอร์ม X ว่าฝ่ายตน "ประสบความสำเร็จในการสกัด" จรวดที่ยิงมาจากกาซ่า ทั้งนี้ฝ่ายฮามาสยังไม่ได้อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว
นอกจากนั้น ฝ่ายอิสราเอลโปรยใบปลิวลงในเขตคานยูนิสทางใต้ของกาซ่า ซึ่งระบุว่าประชาชนควรอพยพไปทางใต้ลงไปอีกเพื่อความปลอดภัย
เจมส์ เอลเดอร์ส โฆษกขององค์การยูนิเซฟของสหประชาชาติโพสต์คลิปลงเเพลตฟอร์ม X จากโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดและยังเปิดทำการอยู่ในกาซ่า พร้อมระบุว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่สามารถรับเด็กที่บาดเจ็บจากสงครามจำนวนมากขึ้นได้อีกต่อไปเเล้ว
เขากล่าวว่าระเบิดตกลง "50 เมตร จากที่นี่" และว่า "การไม่ทำอะไรโดยผู้ที่อำนาจ คือการปล่อยให้เด็ก ๆ โดนฆ่า นี่คือสงครามต่อเด็ก ๆ"
ณ เวลานี้ ฮามาส ซึ่งถูกระบุว่าเป็นองค์การก่อการร้ายโดยสหรัฐฯ อังกฤษและสหภาพยุโรป ปล่อยตัวประกันออกมาเเล้ว 105 คน ส่วนอิสราเอลให้อิสรภาพต่อนักโทษปาเลสไตน์ 240 คน
เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน พบกับประธานาธิบดีอิสราเอล ไอเเซค เฮอร์ซ็อก ที่กรุงเทล อาวีฟ ในช่วงต้นของการหารือ บลิงเคนกล่าวกับเฮอร์ซ็อกว่าสหรัฐฯ เชื่อว่าการพักรบทำให้เกิดผลเชิงบวกและคารมีต่อไป
บลิงเคนมีกำหนดเดินทางกลับจากตะวันออกกลาง หลังจากที่เยือนสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ในวันศุกร์ และน่าจะได้ปรึกษากับผู้นำโลกอาหรับที่เข้าร่วมการประชุมด้านสภาพอากาศโลกของสหประชาชาติที่นครดูไบ
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์