รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหน้าเรียกร้องให้อิสราเอลลงมือทำการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ การรบกับกลุ่มฮามาสกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้งในวันอาทิตย์
พื้นที่เมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซ่าตกเป็นเป้าการโจมตีอย่างหนักจากกองทัพอิสราเอล หลังภาวะหยุดยิงระหว่างสองฝ่ายสิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า อิสราเอลได้ออกคำสั่งให้ขยายปฏิบัติการอพยพแล้ว พร้อม ๆ กับการเคลื่อนทัพไปรุกทางภาคใต้ของกาซ่าซึ่งเป็นจุดที่เชื่อกันว่า ผู้นำฮามาสหลายคนหลบซ่อนตัวอยู่
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า การเดินหน้ารบกับกลุ่มฮามาสจะดำเนินต่อไปจนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวและกลุ่มติดอาวุธนี้ถูกกำจัดจนหมดสิ้น โดยระบุว่า “สงครามอันหนักหน่วงกำลังรอปะทุขึ้นมาอยู่” ด้วย
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส กล่าวระหว่างการร่วมประชุมว่าด้วยภาวะโลกร้อน COP28 ที่ดูไบเมื่อวันเสาร์ว่า “ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์มากมายหลายคนเหลือเกินที่ถูกสังหารไป” และว่า “ภาพของความทุกข์ทรมานของพลเรือนที่เห็นได้จากทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มาจากกาซ่านั้นเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้จริง ๆ”
ส่วน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะที่ “การสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อการสร้างความมั่นคงของอิสราเอลนั้นเป็นสิ่งที่หนักแน่นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ตนได้เตือนอิสราเอลแล้วว่า หากไม่ทำการใด ๆ เพื่อปกป้องพลเรือน ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญกับพัฒนาการของสถานการณ์ที่มีความรุนแรงขึ้นได้
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังระบุระหว่างการร่วมประชุม Reagan National Defense Forum ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นเวทีชุมนุมของผู้นำจากทั้งฟากการเมืองและการทหารว่า ตนได้กดดันให้อิสราเอลขยายช่องทางให้กับการการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้มากขึ้นและย้ำเตือนเสียงเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้ดำเนินการหาทางออกให้กับความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ผ่าน “สถานภาพสองรัฐ” (two-state solution) ด้วย
ความสูญเสียของพลเรือน
กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาสระบุว่า จนถึงบัดนี้ มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 200 คนที่ถูกสังหารไป นับตั้งแต่การหยุดยิงของสองฝ่ายยุติลงเมื่อวันศุกร์ โดยเมื่อคิดรวมกับตัวเลขก่อนหน้าแล้ว มีประชาชนเสียชีวิตไปทั้งหมดไม่น้อยกว่า 15,200 คนและบาดเจ็บกว่า 40,000 คน ตั้งแต่ฮามาสทำการโจมตีรุนแรงเข้าใส่ปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
กระทรวงสาธารณสุขกาซ่ากล่าวด้วยว่า 70% ของเหยื่อความขัดแย้งนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก
นอกจากนั้น ชาวปาเลสไตน์ราว 2 ล้านคน หรือเกือบทั้งหมดของประชากรในกาซ่า ลี้ภัยมาใช้ชีวิตอย่างแออัดในพื้นที่ภาคใต้ของเขตปกครองนี้ ขณะที่ ไม่มีที่ ๆ จะให้คนกลุ่มนี้หลบหนีหรือหลบภัยการสู้รบได้อีกแล้ว
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations’ Office for the Coordination of Humanitarian Affairs – OSHA) ประเมินว่า ในเวลานี้ เกือบ 80% ของประชากรของกาซ่ากลายมาเป็นคนผลัดถิ่นไปแล้ว
นักเคลื่อนไหวปาเลสไตน์ไม่สนศาลโลก
กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนของปาเลสไตน์ปฏิเสธที่จะพบกับ คาริม ข่าน อัยการตัวแทนศาลอาญาระหว่างประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาข่านว่า เข้าข้างฝ่ายอิสราเอลที่กล่าวหาว่า มีการล่วงละเมิดสิทธิ์ในปาเลสไตน์
ข่าน เดินทางเยือนอิสราเอลและเขตเวสต์แบงก์ หลังได้รับการร้องขอจากกลุ่มที่เป็นตัวแทนครอบครัวเหยื่อการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แต่อัยการศาลโลกรายนี้ก็มีกำหนดที่จะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของปาเลสไตน์ที่เมืองรามัลลาห์ด้วย
ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวปาเลสไตน์ระบุว่า ฝ่ายตนปฏิเสธการหารือกับข่าน เพราะเหตุผลที่ว่า ทางตนคัดค้านสิ่งที่เป็นการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันระหว่างคดีของอิสราเอลและของปาเลสไตน์
แนวคิดพื้นที่ด้านความมั่นคงปลอดการสู้รบ
ขณะเดียวกัน อิสราเอลเสนอแนวคิดให้กับประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ พิจารณาการทำให้พื้นที่บางส่วนของตนในเขตปกครองของปาเลสไตน์ซึ่งที่ติดกับพรมแดนกาซ่าอิสราเอล ให้เป็นบริเวณปลอดการสู้รบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการโจมตีระหว่างการขึ้นอีกในอนาคต
มาร์ค เรเจฟ ที่ปรึกษาอาวุโสของนายกฯ เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า อิสราเอลจะต้องมีพื้นที่ด้านความมั่นคงที่ปลอดการสู้รบ “เพื่อไม่เปิดโอกาสให้ผู้ก่อการร้ายข้ามแดนมาประหัตประหารประชาชนของเราอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมได้อีก”
เรเจฟ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้แปลว่า อิสราเอลต้องการยึดพื้นที่อาณาเขตของกาซ่า แต่ต้องการสร้างโซนปลอดภัยที่ซึ่งมีเงื่อนไขการปกครองพิเศษซึ่งจะจำกัดโอกาสไม่ให้มีคนเดินทางเข้ามายังอิสราเอลเพื่อสังหารประชานชน
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่า กรุงวอชิงตันต้องการให้ชาวปาเลสไตน์เป็นผู้ปกครองกาซ่า และไม่ต้องการเห็นพื้นที่ดังกล่าวตกเป็นของอิสราเอล หรือถูกอิสราเอลปิดกันหรือทำการลดขนาดลง
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น