ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘ฮามาส’ เร่งเร้าสหรัฐฯ ให้กดดันอิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิง


ชาวปาเลสไตน์เข้าตรวจสอบความเสียหายที่เต็นท์ในพื้นที่โรงพยาบาล อัล อัคซา มาร์เทอร์ส ในภาคกลางของฉนวนกาซ่าที่ถูกอิสราเอลถล่ม เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567
ชาวปาเลสไตน์เข้าตรวจสอบความเสียหายที่เต็นท์ในพื้นที่โรงพยาบาล อัล อัคซา มาร์เทอร์ส ในภาคกลางของฉนวนกาซ่าที่ถูกอิสราเอลถล่ม เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567

กลุ่มติดอาวุธฮามาสเรียกร้องให้สหรัฐฯ “ออกแรงกดดันอย่างจริงจัง” ต่ออิสราเอลให้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในสงครามกาซ่า ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า ไม่มีการหารือข้อตกลงใด ๆ อยู่ในเวลานี้

ที่ผ่านมา ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างโทษกันและกันว่า เป็นฝ่ายทำให้การหารือข้อตกลงให้มีการหยุดยิงและการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษสะดุดลง ในช่วงที่เนทันยาฮูกำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันให้ยอมรับข้อตกลงนี้เสียที หลังเกิดเหตุสังหารตัวประกัน 6 คนในฉนวนกาซ่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

คาลิล อัล-เฮย์ยา ตัวแทนการเจรจาของฮามาสในกาตาร์ ขอให้สหรัฐฯ “ออกแรงกดดันจริงจังต่อเนทันยาฮูและรัฐบาล(อิสราเอล)” และ “หยุดลำเอียงอย่างไม่ลืมหูลืมตา” เข้าข้างอิสราเอลเสียที

แต่เนทันยาฮูก็ยืนยันกับสื่อของสหรัฐฯว่า การหารือข้อตกลงหยุดยิงนี้ยังไม่ใกล้ได้ข้อสรุปใด ๆ และว่า อิสราเอล “จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ไปถึงจุดที่พวกนั้น (ฮามาส) ยอมรับ(เงื่อนไข)ข้อตกลง”

ทั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลเทลอาวีฟย้ำว่า อิสราเอลต้องเป็นฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมพื้นที่ระเบียงฟิลาเดลฟีที่ตั้งอยู่ที่ชายแดนกาซ่า-อียิปต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ฮามาสลักลอบขนส่งอาวุธอีก

แต่ฮามาสซึ่งเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารทั้งหมดของตนออกจากพื้นที่ที่ว่า กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จุดยืนของเนทันยาฮู “มุ่งที่จะขัดขวางการบรรลุซึ่งข้อตกลง”

ที่อิสราเอล ประชาชนเดินหน้าจัดการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์เนทันยาฮูว่า เป็นผู้ที่ทำให้ตัวประกัน 6 รายในกาซ่าเสียชีวิต เพราะปฏิเสธที่จะยอมอ่อนข้อรับเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้สามารถสรุปข้อตกลงหยุดยิงได้

ภาพการประท้วงที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อ 5 ก.ย. 2567
ภาพการประท้วงที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อ 5 ก.ย. 2567

กิล ดิ๊กแมน ลูกพี่ลูกน้องของ คาร์เมล แกต หนึ่งในหกตัวประกันที่ถูกพบศพในอุโมงค์กาซ่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงที่กรุงเทลอาวีฟในเย็นวันพฤหัสบดี บอกกับผู้สื่อข่าว “เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวประกันทั้งหมดกลับมาอยู่กับเราให้ได้ และถ้าหากผู้นำทั้งหลายไม่ต้องการลงนามในข้อตกลง เราก็จะทำให้พวกเขายอมเซ็นให้ได้”

การโจมตีโดยฮามาสเข้าใส่พื้นที่ภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไปยังกาซ่าอีกกว่า 250 คน ตามรายงานของทางการอิสราเอล

จากนั้น อิสราเอลได้โจมตีโต้กลับเข้าไปในกาซ่า และปฏิบัติการทางทหารของกรุงเทลอาวีฟก็ทำให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 40,878 คนเสียชีวิตไปแล้ว อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า ขณะที่ สำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเปิดเผยว่า เหยื่อส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตในกาซ่านั้นเป็นสตรีและเด็ก

และในวันศุกร์ อิสราเอลเดินหน้าโจมตีทางอากาศเข้าใส่เมืองกาซ่าซิตี้ ตามรายงานของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่พื้นที่ทางตะวันออกของเมืองนี้ โดยหน่วยงานในพื้นที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 6 คนและบาดเจ็บอีกหลายคน ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนต์ กล่าวว่า กองทัพได้ใช้ “สรรพกำลังเต็มที่” ในการโจมตีเข้าใส่นักรบปาเลสไตน์ในเขตปกครองเวสต์แบงก์ด้วย

  • ที่มา: เอเอฟพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG