ลิ้งค์เชื่อมต่อ

อิสราเอลอ้าง สังหารนักรบฮามาสร่วมการโจมตี 7 ตุลาคมสำเร็จ


ผู้คนในกาซ่าซิตี้วิ่งไปยังจุดที่เกิดระเบิด หลังการโจมตีของอิสราเอลที่มีรายงานว่า พุ่งเป้าไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อ 1 ก.ย. 2567
ผู้คนในกาซ่าซิตี้วิ่งไปยังจุดที่เกิดระเบิด หลังการโจมตีของอิสราเอลที่มีรายงานว่า พุ่งเป้าไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อ 1 ก.ย. 2567

กองทัพอิสราเอลเปิดเผยในวันอังคารว่า สามารถสังหารหนึ่งในนักรบฮามาสที่มีส่วนร่วมในการโจมตีพื้นที่ภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมได้สำเร็จ

กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ระบุตัวนักรบกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ว่าเป็น อาห์เหม็ด โฟซิ วาเดีย ซึ่งปรากฏตัวในคลิปวิดีโอที่มีการแชร์ออกมาหลังการโจมตีเมื่อ 11 เดือนก่อน ขณะดื่มน้ำต่อหน้าเด็ก 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดมือที่ทำให้พ่อของเด็กทั้งสองเสียชีวิต

ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า วาเดีย เป็นหนึ่งใน 8 นักรบของฮามาสที่ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศเข้าใส่กาซ่าซิตี้เมื่อวันเสาร์

ขณะเดียวกัน ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในวันอังคารว่า กองทัพจะเป็นฝ่ายได้ชัยในการรบกับฮามาส ไม่ว่าจะได้รับอาวุธจากอังกฤษหรือไม่

เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลอังกฤษประกาศว่า จะระงับการส่งออกอาวุธบางส่วนให้กับอิสราเอล เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานอาวุธยุทธภัณฑ์ของตนในกาซ่า

ทำเนียบนายกฯ อิสราเอลกล่าวด้วยว่า “แทนที่จะยืนเคียงข้างอิสราเอล ประเทศประชาธิปไตยที่มุ่งป้องกันตนเองจากความป่าเถื่อน การตัดสินใจอย่างผิด ๆ ของอังกฤษ(ครั้งนี้) กลับจะทำให้ฮามาสฮึกเหิมมากขึ้น”

เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า มี “ความเสี่ยงที่ชัดเจน” ว่า อาวุธบางส่วนอาจนำไปใช้ในการ “ก่อหรืออำนวยความสะดวกให้เกิดการละเมิดอย่างร้ายแรงของกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยมนุษยธรรม”

จอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Times Radio ในวันอังคารด้วยว่า การระงับใบอนุญาตการส่งออกอาวุธ 30 รายการ จากทั้งหมด 350 รายการให้กับอิสราเอล” จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความมั่นคงของอิสราเอล”

ทั้งนี้ นายกฯ เนทันยาฮู กำลังเผชิญแรงกดดันจากภายในประเทศ หลังมีการประท้วงเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนเพื่อเรียกร้องให้ยอมทำข้อตกลงหยุดยิงกับฮามาสเพื่อจะได้นำตัวประกันที่ยังอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธนี้กลับบ้าน

เอพีรายงานว่า เนทันยาฮูกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “ไม่มีใครมุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวประกันเป็นอิสระมากกว่าผมอีกแล้ว ... ไม่มีใครจะมาสั่งสอนผมในเรื่องนี้ได้”

หนึ่งในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาในการเจรจาหยุดยิงก็คือ ความพยายามของเนทันยาฮูให้อิสราเอลยังคงเป็นผู้ควบคุมเส้นทางระเบียงฟิลาเดลฟี ตามแนวชายแดนกาซ่า-อียิปต์ ต่อไป โดยอิสราเอลอ้างว่า กลุ่มฮามาสใช้อุโมงค์ตามแนวระเบียงดังกล่าวในการลักลอบขนอาวุธเข้าไปยังกาซ่า แม้อียิปต์และฮามาสจะปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้แล้วก็ตาม

เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกความเห็นในเชิงตำหนิวิธีการที่เนทันยาฮูรับมือสถานการณ์ตัวประกันและการเจรจาหยุดยิง

หลังผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวสอบถามว่า คิดว่าสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลกำลังทำอยู่นั้นเพียงพอที่จะนำไปสู่การปล่อยตัวประกันกว่า 100 คนหรือไม่ ปธน.สหรัฐฯ ตอบสั้น ๆ ว่า “ไม่” แต่ก็กล่าวว่า ตนจะมีอะไรพูดเพิ่มเติมหลังร่วมประชุมกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแล้ว

โฆษกของหน่วยรบของฮามาสระบุในแถลงการณ์ที่ออกมาในวันจันทร์ว่า ถ้าหากอิสราเอลยังคงจะใช้การกดดันทางทหารเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกัน ผู้ที่ยังอยู่ในการควบคุมของกลุ่มติดอาวุธนี้ก็จะได้กลับคืนสู่ครอบครัว “ในผ้าห่อศพ” พร้อมกล่าวด้วยว่า ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมตัวประกันเพิ่งได้รับคำสั่งใหม่ว่า จะต้องทำการอย่างไร หากกำลังทหารของอิสราเอลเกิดประชิดเข้ามาใกล้ และคำสั่งดังกล่าวก็มีออกมาหลังอิสราเอลบุกจู่โจมเมื่อเดือนมิถุนายนเพื่อช่วยตัวประกัน 4 คนให้เป็นอิสระ

ความขัดแย้งรุนแรงครั้งใหม่ระหว่างสองฝ่ายนี้เริ่มต้นขึ้น หลังฮามาสโจมตีอิสราเอลที่ไม่ทันตั้งตัวเมื่อ 7 ตุลาคมของปีที่แล้วและทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน ทั้งยังมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ตามข้อมูลของทางการอิสราเอล ก่อนที่ฝ่ายอิสราเอลจะโจมตีโต้กลับเข้าไปในฉนวนกาซ่า และทำให้มีชาวปาเลสไตน์กว่า 41,000 คนเสียชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่บริหารงานโดยฮามาส แต่กองทัพอิสราเอลอ้างว่า ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงนักรบฮามาสหลายพันคนอยู่ด้วย

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG