ปิดฉากสัปดาห์ที่สภาอเมริกันพยายาม 15 ครั้งในการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อส.ส.รีพับลิกัน "เควิน เเมคคาร์ธี" สามารถเปลี่ยนใจผู้ที่เคยคัดค้านเขา และระดมเสียงสนับสนุนเพียงพอ เมื่อเวลาผ่านเข้าสู่วันเสาร์
ในการโหวตครั้งที่ 15 ที่เสร็จสิ้นลงหลังเที่ยงคืนวันศุกร์ สภาลงมติให้เเมคคาร์ธี ส.ส.จากเเคลิฟอร์เนีย เป็นประธานสภาผู้เเทนราษฎรสหรัฐฯ ด้วยคะเเนน 216
ฮาคีม เจฟฟรีย์ แห่งพรรคเดโมเเครต ผู้นำเสียงข้างน้อย ได้คะเนนจากส.ส.ในสภา 212 เสียง และ มีส.ส.ร่วมพรรครีพับลิกันของเเมคคาร์ธี 6 คนที่สงวนการสนับสนุนผู้ได้รับเสนอชื่อ แต่ใช้สิทธิ์ลงคะเเนนเพียงเเค่ขอเเสดงตนร่วมการลงมติ
"พ่อของผมกล่าวไว้เสมอว่า มันใช่ว่าคุณเริ่มต้นอย่างไร แต่มันคือคุณทำมันให้เสร็จสิ้นอย่างไร" เเมคคาร์ธีกล่าว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อร่วมพรรครีพับลิกัน
สำหรับงานที่เขาต้องการเดินหน้า เเมคคาร์ธีกล่าวว่าจะมีการเรียกข้อมูลและทำการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน
เเมคคาร์ธีเปิดเผยว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนช่วยให้ตนได้รับเสียงสนับสนุนในช่วงท้ายที่ช่วยพลิกให้เขามีคะเเนนเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาอเมริกัน
ทันทีที่ผลการลงมติชี้ถึงชัยชนะของเเมคคาร์ธี บรรดาส.ส.รีพับลิกันต่างร้องยินดีด้วยคำว่า "ยูเอสเอ! ยูเอสเอ!" และจากนั้นเเมคคาร์ธีก็ทำพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเปิดทางให้บรรดาส.ส.ชุดใหม่สามารถปฏิญาณตนรับตำแหน่งต่อจากนี้ได้เช่นกันหลังจากรอคอยมาหลายวัน
กว่าจะได้รับการสนับสนุนเพียงพอจากเพื่อร่วมพรรครีพับลิกัน เเมคคาร์ธี ใช้เวลาเจรจากับผู้ที่คัดค้านการเสนอชื่อเขา โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่า เขายอมรับข้อเรียกร้องของส.ส.พรรคเดียวกัน สายอนุรักษ์นิยมเหล่านี้ที่ ต้องการให้นำกฎมาใช้ใหม่ ในเรื่องที่อนุญาตให้ สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรคนใดก็ได้เพียงหนึ่งรายยื่นญัตติขอให้สภาโหวตถอดถอนประธานสภาฯ
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นกับการเริ่มต้นสภาชุดใหม่ของอเมริกาในครั้งนี้ ส่อเค้าลางถึงความยุ่งยากที่รอพรรครีพับลิกันอยู่ในฐานะผู้กุมเสียงข้างมากในสภาผู้เเทนฯ
ประสบการณ์ที่คล้ายกันนี้เคยมีขึ้น ในตอนที่ส.ส.จอห์น เบห์เนอร์แห่งรีพับลิกัน เป็นประธานสภาฯ และต้องเผชิญกับกลุ่ม "ขบฏ" ภายในพรรคจากสายอนุรักษ์นิยมที่ต้องการทำให้เขาหลุดออกจากตำแหน่ง จนเขาต้องลาออกก่อนหมดวาระ
จำนวนครั้งในการลงมติเลือกประธานสภาฯ สหรัฐฯครั้งนี้ ที่ 15 รอบนั้น ทุบสถิติเดิมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1923 ที่การลงมติดำเนินไปถึง 9 ครั้ง
ขณะที่ เหตุโกลาหลในสภาล่างระหว่างการเลือกประธานสภาฯ ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน เกิดขึ้นย้อนกลับเมื่อช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1850 ที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ ไม่สามารถทำคะแนนถึงระดับเสียงข้างมากในการโหวตครั้งแรก และในครั้งนั้นมีการลงมติเกิดขึ้นถึง 133 ครั้ง ในกรอบเวลา 2 เดือน
- ที่มา: เอพี