เควิน เเมคคาร์ธี ส.ส.รีพับลิกันที่พยายามระดมเเสีงสนับสนุนภายในพรรคของตน เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งประธานสภาผู้เเทนราษฎรสหรัฐฯ มีความหวังมากขึ้น หลังจากการโหวตยืดเยื้อมาหลายวัน
ในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันที่สี่ของความพยายามระดมเสียงสนับสนุน และมีการโหวตครั้งที่ 12 ส.ส.เเมคคาร์ธีสามารถเปลี่ยนเสียงบางส่วนที่เคยคัดค้านภายในพรรค มาเป็นฝ่ายเดียวกับตน
แม้จะยังไม่ได้จำนวนส.ส.ภายในพรรครีพับลิกัน มาเป็นเเนวร่วมอย่างเพียงพอ ณ เวลานี้ ตามเป้า 218 เสียง เขาได้คะเเนนสนับสนุน 213 เสียง ถือว่ามากที่สุดในรอบ 4 วันที่ผ่านมา
เสียงที่ได้เพิ่มขึ้นมากว่า 10 เสียง คือมาจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมบางส่วนที่เคยโหวตสวนเสียงส่วนใหญ่ของพรรคในการลงคะเเนนก่อนหน้านี้
เเมคคาร์ธี ใช้เวลาเจรจากับผู้ที่คัดค้านการเสนอชื่อเป็นประธานสภาผู้เเทนราษฎรของเขา โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่า เขายอมรับข้อเรียกร้องของเพื่อนร่วมพรรคเหล่านี้ที่ ต้องการให้นำกฎมาใช้ใหม่ ในเรื่องที่อนุญาตให้ สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรคนใดก็ได้เพียงหนึ่งรายยื่นญัตติขอให้สภาโหวตถอดถอนประธานสภาฯ
ดังนั้นจึงหมายความว่า การยอมในเรื่องดังกล่าว ทำให้ เเมคคาร์ธี จะมีอำนาจอ่อนลงระดับหนึ่ง เพื่อเเลกกับการขึ้นมาเป็นประธานฝ่ายนิติบัญญัติ
เอพีรายงานว่า เเมคคาร์ธี มีท่าทีสดชื่นขึ้นในวันศุกร์หลังสามารถเปลี่ยนใจผู้ที่เคยคัดค้านตน เขาบอกกับนักข่าวว่า “เราจะทำให้เกิดความก้าวหน้าขึ้น เราจะทำให้คุณตะลึง”
ในบรรดา ส.ส. ที่เเมคคาร์ธีสามารถเปลี่ยนใจสำเร็จ คือ สก็อตต์ เพอร์รี ประธานกลุ่มการเมืองอนุรักษ์นิยม ที่เรียกว่า “ฟรีดอม คอคัส”
ส.ส. เพอร์รี กล่าวผ่านทวิตเตอร์หลังจากเปลี่ยนมาโหวตหนุน เเมคคาร์ธีว่า “เรากำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน”
ในช่วงเย็นวันศุกร์ หลังการโหวตครั้งที่ 12 จบลง สภาตัดสินใจพักประชุม และจะกลับมาลงคะเเนนเลือกประธานสภาฯ ครั้งที่ 13 ตอน 22:00 น.ในวันเดียวกัน ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯหลายเเห่งเช่น เอ็นบีซี ซีเอ็นบีซี และนิวยอร์กไทมส์
การที่รีพับลิกันยังหาข้อสรุปไม่ได้ ณ ช่วงเย็นวันศุกร์ ทำให้ยังไม่มีการทำพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของสมาชิกสภาชุดใหม่ และยังไม่มีการตั้งคณะกรรมธิการด้านต่าง ๆ รวมถึงเกิดความล่าช้าต่อการทำงานด้านนิติบัญญัติและการตรวจสอบรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
- ที่มา: เนื้อหาบางส่วนมาจากเอพี เอ็นบีซี ซีเอ็นบีซี และนิวยอร์กไทมส์