ส.ส.เควิน แมคคาร์ธี ผู้แทนพรรครีพับลิกัน เสนอที่จะลดบทบาทของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี แต่ยังไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวเพื่อนร่วมพรรคสายอนุรักษ์นิยมให้สนับสนุนเขาให้ก้าวมารับตำแหน่งนี้ได้ดังหวัง แม้การลงมติจะผ่านพ้นมาถึงวันที่ 3 แล้วก็ตาม
ในการโหวตที่ดำเนินมาถึงครั้งที่ 10 ในวันพฤหัสบดี ส.ส.แมคคาร์ธีไม่สามารถทำคะแนนถึง 218 เสียงที่ต้องการในการเข้ารับตำแหน่งประธานสภาฯ สหรัฐฯ ได้ และส.ส.รีพับลิกันอีกหลายคน เทคะแนนให้กับไบรอน โดนัลด์ส และเควิน เฮิร์น คู่แข่งในพรรคของเขา ขณะที่พรรคเดโมแครตเทคะแนนทั้งหมด 212 เสียงให้กับ ส.ส.ฮาคีม เจฟฟรีส์ อย่างเป็นเอกฉันท์ในทุกรอบของการลงคะแนน
ส.ส.รีพับลิกัน แมตต์ กาสซ์ ที่ลงคะแนนหนึ่งเสียงให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสภา บอกว่า สิ่งนี้จะมีจุดจบอยู่สองทาง นั่นคือ ส.ส.แมคคาร์ธี ต้องถอนตัวจากการชิงชัยครั้งนี้ หรือรับเงื่อนไขที่เขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ทั้งนี้ สภาผู้แทนฯ ไม่สามารถจัดการประชุมได้จนกว่าจะมีประธานสภาฯ เพราะบุคคลในตำแหน่งนี้จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฎรสามารถเลือกประธานสภาฯ ใหม่ได้ทุกเมื่อ หากประธานสภาฯ เสียชีวิต ลาออก หรือถูกถอดถอนจากตำแหน่ง นอกเหนือจากกรณีเหล่านี้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะได้รับเลือกในช่วงเริ่มต้นของสภาชุดใหม่
ขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯ นั้น บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนฯ จะขานชื่อบุคคลที่พวกเขาต้องการเสนอชื่อให้รับตำแหน่งดังกล่าวในที่ประชุม ซึ่งมีบางครั้งที่กระบวนการดังกล่าวกินเวลาเนิ่นนานและยกระดับเป็นเรื่องดราม่าขึ้นบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกระบวนการขานชื่อและนับคะแนนเสียงเท่านั้น
ตอนนี้จำนวนครั้งในการลงมติเลือกประธานสภาฯ สหรัฐฯ ทุบสถิติเดิมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1923 ที่การลงมติดำเนินไปถึง 9 ครั้ง ขณะที่ เหตุโกลาหลในสภาล่างระหว่างการเลือกประธานสภาฯ ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน เกิดขึ้นย้อนกลับเมื่อช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1850 ที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ ไม่สามารถทำคะแนนถึงระดับเสียงข้างมากในการโหวตครั้งแรก และในครั้งนั้นมีการลงมติเกิดขึ้นถึง 133 ครั้ง ในกรอบเวลา 2 เดือน
การที่รีพับลิกันยังหาข้อสรุปไม่ได้ ณ ช่วงเที่ยงวันของวันพุธ ทำให้ยังไม่มีการทำพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของสมาชิกสภาชุดใหม่ และยังไม่มีการตั้งคณะกรรมธิการด้านต่าง ๆ รวมถึงเกิดความล่าช้าต่อการทำงานด้านนิติบัญญัติ และการตรวจสอบรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
นับตั้งแต่เปิดสมัยประชุมครั้งที่ 118 ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในสภาจากการลงมติอันยืดเยื้อ ที่ ส.ส.แมคคาร์ธีไม่สามารถครองเสียงข้างมากที่เป้าหมาย 218 เสียงจาก 435 เสียงในสภาล่าง เพื่อให้ขึ้นเป็นประธานสภาฯ คนใหม่ได้นั้น ทำให้องค์ประชุมเป็นอัมพาตมาหลายวัน รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่มีมากเกินไปของส.ส.อนุรักษ์นิยมสุดโต่งกลุ่มเล็ก ๆ ภายในพรรครีพับลิกันอีกด้วย
ทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้?
หากส.ส.แมคคาร์ธี ล้มเหลวในการสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรครีพับลิกัน อาจจะต้องสรรหาตัวแทนคนอื่นขึ้นมา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า สตีฟ สกาลิส ส.ส.รีพับลิกันที่มีตำแหน่งสูงสุดอันดับสองของพรรค และส.ส.จิม จอร์แดน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากส.ส.แมคคาร์ธีทั้งคู่ อาจเป็นตัวแทนที่ขึ้นมาในการพิจารณาได้ โดย ส.ส.จอร์แดน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน เมื่อครั้งที่เปิดการลงคะแนนรอบแรก ๆ ในวันอังคาร
นอกจากนี้ ฝั่งรีพับลิกันอาจหาทางให้ส.ส.เดโมแครตช่วยได้ แม้ว่าผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาล่างอย่าง ส.ส.ฮาคีม เจฟฟรีส์ จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ายังไม่มีใครจากฝั่งรีพับลิกันที่ติดต่อเข้ามาก็ตาม โดยส.ส.โร คาห์นนา บอกกับรอยเตอร์ว่า เขาและส.ส.คนอื่น ๆ ในพรรค สามารถช่วยสนับสนุนส.ส.รีพับลิกันสายกลางที่จะเห็นชอบในการแบ่งปันอำนาจกับเดโมแครต และเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาด้านงบประมาณและหนี้สาธารณะได้
- ที่มา: รอยเตอร์