ข้อมูลตัวเลขจากบริษัทเครดิตวีซ่า ชี้ว่า การจ่ายเงินด้วยระบบดิจิตัลในเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากเดือนมิถุนายนปี พ.ศ 2560 ถึงเดือนมิถุนาน พ.ศ. 2561
ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้แยกว่าเป็นการจ่ายด้วยเงินเครดิตหรือจ่ายด้วยการหักตรงจากบัญชีธนาคาร เเต่ชี้ว่าการจ่ายเงินแบบอิเลคทรอนิคส์ที่เพิ่มขึ้นนี้เเสดงว่าชาวเวียดนามใช้บัตรเครดิตกันมากขึ้น
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเอื้อให้การจับจ่ายซื้อสินค้า เเละบริการด้วยบัตรเครดิตมีส่วนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว เเต่ในขณะเดียวกัน การพึ่งพาบัตรเครดิตเพื่อกระตุ้นการบริโภค อย่างเช่นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ชาวเวียดนามกู้ยืมเงินมากกว่าที่จะใช้คืนได้ หรือใช้เงินเกินตัว
ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเเค่ในเวียดนามเท่านั้น แต่มีความกังวลกันเพิ่มขึ้นทั่วโลกว่า หนี้สินที่เพิ่มมากขึ้นอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้
อย่างไรก็ตาม Truong Minh Ha หัวหน้าฝ่ายการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าที่บริษัทวีซ่าแห่งเวียดนามเเละลาว กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงโดยรวมดีต่อเวียดนา มเพราะง่ายมากขึ้นในการติดตามตรวจสอบการประกอบธุรกิจ
เธอกล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากภาครัฐเป็นธุรกิจผิดกฏหมายไปเสียหมด แต่ก็มีจำนวนมากเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้าของเถื่อนเเละการฟอกเงิน เเละหากไม่มีการแก้ปัญหาหรือควบคุม รัฐบาลจะเสียรายได้ในเเง่ของการจัดเก็บภาษีเเละคู่เเข่งทางธุรกิจเสียเปรียบเพราะไม่สามารถเเข่งขันได้
การจับจ่ายด้วยบัตรเครดิตเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างขึ้นทั่วประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ซึ่งในอดีตเป็นเรื่องธรรมดาที่คนจ่ายเงินสดเพื่อซื้อบ้านหรือรถมอเตอร์โซด์หรือสินค้าที่ขายทางออนไลน์ แต่มาในปัจจุบัน ชาวเวียดนามกำลังกู้เงินกันมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้
บริษัท Moody's ผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินชี้ว่าบริษัท FE Credit มีการออกสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงร้อยละ 39 ในปี พ.ศ 2560 เเละทางบริษัท FE Credit ได้ส่วนเเบ่งลูกค้าในภาคการเงินของเวียดนามเกือบครึ่งหนึ่ง
แต่บริษัท Moody's รายงานเพิ่มเติมว่า การขยายตัวทางสินเชื่อของบริษัท FE นี้มีขึ้นขณะที่ลูกค้ามีสินทรัพย์รับประกันที่น้อยลงเเละมาตรฐานข้อกำหนดการกู้ยืมลดหย่อนลง ซึ่งหมายความว่าสถานะการทางการเงินของผู้กู้ยืมไม่เเข็งเเรงนัก เพิ่มโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้เสียได้
นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภาคการปล่อยสินเชื่อขนาดเล็ก หรือ micro-loan อีกด้วย โดยเเทนที่จะรอจนกว่าจะมีเงินพอซื้อโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องซักผ้า คนงานในโรงงานอุตสาหกรรมเลือกที่จะผ่อนซื้อสินค้าเหล่านี้เเทนที่จะรอจนกว่าจะได้เงินเดือน เเละยอมให้เจ้าหนี้หักเงินจากเงินเดือน
มีความกังวลกันว่าการใช่บัตรเครดิตมากเกินเพิ่มความเสี่ยง
ในเวียดนาม ผู้บริโภคสามารถกู้เงินเเบบนี้ได้อย่างง่ายดายผ่าน Appโทรศัพท์มือถือ และนี่เป็นเพียงวิธีหนึ่งเท่านั้นที่คนเวียดนามกำลังนิยม
Nguyen Huynh Phuong Thao นักการบัญชีที่มีใบรับรองแห่งสภาทนายความแห่งเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่า ปัญหานี้ไม่เฉพาะเจาะจงเเค่เวียดนามเท่านั้น เเละถึงเวลาเเล้วที่ต้องร่วมมือกันทั่วโลกในการควบคุมวิธีใหม่ๆ ที่คนเราใช้ในการจัดการเงินเเละในการใช้เงิน
เธอกล่าวว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการใช้จ่ายเงินผ่านเทคโนโลยี ก็เข้าข่ายว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินข้ามชายเเดน จึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยกันระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อหาทางร่วมมือกันตั้งกฏระเบียบขึ้นมาควบคุม
(เรียงเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)