สื่อมวลชนเวียดนามรายงานว่า นาย Pham Bin Minh รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับเกาหลีเหนือในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจเเละสังคม ตลอดจนการสร้างประเทศ หลังจากที่นาย Ri Young Ho รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือได้ไปเยือนเวียดนาม ชาติคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ข้อเสนอของเวียดนามเเก่เกาหลีเหนือ น่าจะหมายถึงการสอนให้เกาหลีเหนือพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจภายใต้การปกครองระบบผูกขาดอำนาจของครอบครัวคิม อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ศาสตราจารย์ Leif-Eric Easley ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการต่างประเทศที่มหาวิทยาลัย Ewha University ในกรุงโซล กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ภายใต้การนำของครอบครัวคิม มีความสนใจเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านการพัฒนาของเวียดนาม เพราะเวียดนามสามารถปฏิรูปเศรษฐกิจที่เติบโดอย่างรวดเร็ว ขณะที่ยังปกครองประเทศโดยระบบพรรคการเมืองเดียว
หน้าเว็บไซท์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ระบุคำกล่าวของนาย Minh รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ที่ว่า รัฐบาลของเวียดนามเเละพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยินดีที่จะทำงานกับเกาหลีเหนือเพื่อส่งเสริมการเเลกเปลี่ยนและความร่วมมือในทุกด้าน
อย่างไรก็ตาม บรรดาสื่อมวลชนเวียดนามไม่ได้เเจงรายละเอียดว่าทั้งสองชาติจะร่วมมือกันอย่างไร เเต่เเน่นอนว่าเวียดนามมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่จะแบ่งปันกับเกาหลีเหนือได้
เศรษฐกิจเวียดนามถือว่าโตเร็วที่สุดในเอเชีย โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกในปีนี้ขยายตัวราวร้อยละ 7 หลังจากอยู่เกือบร้อยละ 6 มานานหลายปี ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียประมาณว่า จีดีพีของเวียดนามทั้งปีในปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 7.1
เวียดนามก็เหมือนกับจีนที่เริ่มเปิดประเทศแก่การลงทุนจากต่างชาติในช่วงปลายคริสต์ศตรรษที่ 1980 ค่าจ้างเเรงงานที่ต่ำช่วยดึงดูดนักลงทุนจากทั่วเอเชียตะวันออกที่เข้าไปตั้งโรงงานผลิตสินค้าเพื่อส่งออก ปัจจุบันการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าต่ำได้เริ่มเปลี่ยนไปเป็นการผลิตสินค้าอิเลคทรอนิคส์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น
นาย ราจิฟ บิสวาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียเเปซิฟิกแห่ง HIS Markit กล่าวว่า เวียดนามรู้ดีว่าจีนก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างมากหลังจากเริ่มการปฏิรูปต่างๆ เเละเขามองว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในเวียดนามมีขึ้นราว 10 ปีที่แล้ว ตอนที่รัฐบาลเวียดนามตระหนักว่าจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น
ส่วนเกาหลีเหนือ ตรงกันข้ามกับเวียดนามที่ทำการค้ากับจีนเป็นส่วนใหญ่เเละยังเจอกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินาน 12 ปี เนื่องจากเกาหลีทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกเเร่ธาตุเเละสินค้าโรงงานอุตสาหกรรม
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้บังคับใช้การคว่ำบาตรของตนเองต่อเกาหลีเหนือ
ศาสตราจารย์ Tai Wan-ping ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัย Cheng Shiu University ในไต้หวัน กล่าวว่า เศรษฐกิจของเวียดนามกลายเป็นที่หมายตาของสหรัฐฯ
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของเกาหลีเหนืออยู่ที่ร้อยละ 3.5 เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี และมีชาวเกาหลีเหนือราวร้อยละ 40 ที่ยากจน
ศาสตราจารย์ Easley ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการต่างประเทศที่มหาวิทยาลัย Ewha ในกรุงโซล กล่าวว่า การเยือนเวียดนามของนาย Ri Young Ho รมต.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่าผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกำลังเน้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ก่อนหน้าที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะมีแถลงการณ์ในช่วงปีใหม่ที่จะเรียกร้องให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรของนานาชาติต่อเกาหลีเหนือ
Song Seng Wun นักเศรษฐศาสตร์แห่ง CIMB ในสิงค์โปร ชี้ว่าเกาหลีเหนือคงต้องการเรียนรู้จากเวียดนามว่าทำไมจึงสามารถดึงดูุดนักลงทุนจากเกาหลีใต้ให้เข้าไปผลิตสินค้าเพื่อส่งออกถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดของเวียดนาม เผื่อว่าเกาหลีเหนืออาจจะพบหนทางพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีให้ดีขึ้นได้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)