นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของเวียดนามจะขยายตัวร้อยละ 7 ในปีนี้ ค่าเงินดองเเละภาวะเงินเฟ้อยังคงตัว การขยายตัวด้านการส่งออก การผลิตสินค้า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเเละตัวชี้วัดอื่นๆ บ่งบอกว่าเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตเร็วกว่าชาติคู่แข่งอีก 9 ชาติ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมอาเซียน
ชีดู นารายานัน (Chidu Narayanan) นักเศรษฐศาสตร์เอเชียที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (Standard Chartered Bank) กล่าวว่า เวียดนามจะยังคงเป็นชาติอาเซียนที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในปีนี้เเละปีหน้า
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากจะอธิบายว่าทำไมเวียดนามซึ่งมีประชากรราว 100 ล้านคนจึงเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ควรมองดูที่ปัจจัยต่างๆ อาทิ การค้า การใช้จ่ายของผู้บริโภค เเละการเมือง
เวียดนามเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ซึ่งระบบการปกครองนี้ไม่น่าจะดึงดูดใจนักลงทุน เเต่หลายคนบอกว่าความมั่นคงทางการเมืองของเวียดนามผ่านการปกครองแบบรัฐบาลพรรคการเมืองเดียว เป็นเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจเข้าไปลงทุน
เเละในความเป็นจริง ธุรกิจในเวียดนามเกือบทั้งหมดดำเนินการในตลาดเสรีที่มีการควบคุมของรัฐบาลในระดับหนึ่งเท่านั้น
เสถียรภาพทางการเมืองของเวียดนามส่งผลให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง และช่วยเวียดนามลดทอนผลกระทบรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมือง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติทำได้ไม่ดีนัก
ตลาดหุ้นเวียดนามไม่ระส่ำระส่ายเเม้เเต่น้อยตอนที่ ประธานาธิบดีกวาง ถึงเเก่อสัญกรรมอย่างกระทันหันเมื่อเดือนที่แล้วในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่ง เเละประธานพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียน ฟู ทรอง จะขึ้นดำรงตำเเหน่งเเทน
คาร์ล เธเยอร์ (Carl Thayer) ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์การเมืองกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (University of New South Wales) ในออสเตรเลีย กล่าวว่า การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีเวียดนามจะไม่ทำให้ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเเละการเมืองของประเทศเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ แต่อย่างใด
ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของเวียดนามเน้นการทำข้อตกลงทางการค้ากับหลายประเทศอื่นให้มากที่สุดผ่านสมาคมอาเซียน เวียดนามมีข้อตกลงทางการค้ากับออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์ อินเดีย ญี่ปุ่น เเละเกาหลีใต้
นอกจากนี้ เวียดนามยังลงนามในข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership ด้วย และยังทำข้อตกลงทางการค้าที่แยกต่างหากกับรัสเซียเเละสหภาพยุโรป
หอการค้าแห่งยุโรปในเวียดนามทำการสำรวจเเละได้รายงานผลเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ระหว่างไตรมาสเเรกเเละไตรมาสที่สองของปีนี้
นิโคลัส ออดิเยอร์ (Nicolas Audier) ประธานร่วมของหอการค้าแห่งยุโรปในเวียดนาม กล่าวว่า ผลการสำรวจนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า บริษัทและนักลงทุนยุโรปยังมีความเชื่อมั่นในเวียดนาม
ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปถือว่าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่จะช่วยส่งเสริมการค้าเเละการลงทุนแก่ทั้งสองฝ่าย โดยทางหอการค้ายุโรปหวังว่าผลดีนี้จะช่วยกระตุ้นรัฐบาลเวียดนามให้เดินหน้าเปิดตลาดเวียดนามเเก่การลงทุนจากต่างประเทศต่อไป
บริษัทวิจัยทางการตลาด Nielsen รายงานเมื่อเดือนมีนาคมว่า ผู้บริโภคชาวเวียดนามยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจ โดยผู้บริโภคเวียดนามมีความมั่นใจสูงกว่าผู้บริโภคในประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ และขณะที่รายได้ของประชาชนเวียดนามเพิ่มสูงขึ้น การใช้จ่ายของพวกเขาช่วยดึงดูดสินค้าเกือบทุกยี่ห้อ
Zara ผู้ขายปลีกเสื้อผ้าเเฟชั่นจากสเปนได้เปิดร้านหลายแห่งในเวียดนาม ขณะที่ Apple ได้อนุญาตให้บริษัท EDigi ในเวียดนามให้เป็นผู้แทนจำหน่ายระดับพรีเมียมแห่งเเรกในประเทศในเดือนกันยายน โดยได้รับอนุญาตให้บริการซ่อม iPhone เเละคอมพิวเตอร์ Mac ด้วย
ส่วนกลุ่มบริษัท Vingroup ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของเวียดนามได้เปิดตัวธุรกิจผลิตรถยนต์ในเดือนนี้ โดยมี เดวิด เบคเเคม นักฟุตบอลอังกฤษผู้โด่งดังในโฆษณาเพื่อโปรโมทรถ
อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า เวียดนามต้องคอยดูแลเรื่องการกู้ยืม ผู้บริโภคเวียดนามนิยมใช้บัตรเครดิตกันมากขึ้น รัฐบาลมีหนี้สินที่สูงเกือบถึงระดับเพดานหนี้เเล้ว และธนาคารต่างๆ ยังมีหนี้เสียมากกว่าที่กำหนดเอาไว้
ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มชะลอตัว เเละเวียดนามต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)