ประธานาธิบดีเวียดนาม เหงียน ซวน ฟุก ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ในวันพฤหัสบดีที่ทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมกล่าวว่ากำลังรอต้อนรับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส ที่จะเดินทางเยือนเวียดนาม "เร็ว ๆ นี้"
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกันที่เดินทางไปเวียดนามร่วมกับคณะของรัฐมนตรีออสตินมิได้ยืนยันกำหนดการดังกล่าว และขอให้ VOA สอบถามไปทางทำเนียบขาวโดยตรง
รัฐมนตรีลอยด์ ออสติน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน คนแรกที่เดินทางเยือนเวียดนาม ในขณะที่เวียดนามกำลังรับมือการระบาดของโคโรนาไวรัสระลอกใหม่
เมื่อไม่กี่วันก่อน รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งจัดส่งวัคซีนโควิดจากบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) จำนวน 3 ล้านโดสให้แก่เวียดนาม และทำให้จำนวนวัคซีนที่เวียดนามได้รับจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านโดสแล้ว
รมต.ออสติน กล่าวกับ ปธน.ฟุก ว่า "สหรัฐฯ จะพยายามหาทางช่วยเหลือเวียดนามในด้านต่าง ๆ โดยไม่มีภาระผูกพันใด ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนทำให้กับเพื่อนในช่วงเวลาฉุกเฉิน"
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้เสนอกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับเวียดนามท่ามกลางการขยายอิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์บางส่วนในน่านน้ำบริเวณนี้เช่นกัน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี กล่าวว่า รมต.ออสตินได้หยิบยกประเด็นสิทธิมนุษยชนขึ้นมาหรือระหว่างการเจรจากับประธานาธิบดีเวียดนาม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามด้วย
โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับเวียดนามจะยังคงมีขอบเขตจำกัดต่อไป จนกว่าเวียดนามจะมีความคืบหน้าในด้านสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ ผู้แทนของสองประเทศยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการช่วยเหลือเวียดนามเพื่อค้นหาและระบุตัวตนของชาวเวียดนามที่ถูกสังหารหรือสูญหายในช่วงสงครามเวียดนาม โดยภารกิจค้นหานี้จะได้รับการสนับสนุนจากฐานข้อมูลที่สร้างโดยมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด และมหาวิทยาลัยเท็กซัส เทค