รัฐบาลเวียดนามกำลังเร่งสั่งวัคซีนโควิด-19จากทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้นและทำให้ประชาชนไม่พอใจมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมผ่านมา เวียดนามตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 2,383 คนภายใน 1 วัน ซึ่งเป็นสถิติรายวันสูงที่สุด หลังสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อไม่นานมานี้
และแม้รัฐบาลเวียดนามจะควบคุมการระบาดระลอกก่อนๆ ได้สำเร็จด้วยการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปัจจุบัน ประชาชนจำนวนไม่น้อย ซึ่งรวมถึงผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลด้วย เริ่มตั้งคำถามว่า ทางการกำลังรับมือการระบาดด้วยวิธีที่ถูกต้องอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อตัวเลขสถิติชี้ให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของประเทศนั้น ต่ำกว่าของประเทศอื่นๆ อย่างมาก ที่ 0.4 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด เมื่อเทียบกับสัดส่วน 1.8 เปอร์เซ็นต์ ในสหรัฐฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ครั้งก่อนนั้น เศรษฐกิจเวียดนามได้รับความเสียหายพอควร
สำนักงานสถิติของประเทศระบุว่า ประชาชนราว 12.8 ล้านคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยราว 557,000 คนนั้นต้องกลายมาเป็นคนว่างงาน และ 4.1 ล้านคนต้องหยุดทำธุรกิจชั่วคราว ขณะที่ประชาชนอีกหลายล้านคนมีรายได้ลดลง
ในส่วนของแผนการแจกจ่ายวัคซีนนั้น ผู้นำเวียดนามตั้งความหวังที่จะยกระดับการฉีดให้กับประชาชนให้ได้สัดส่วนสูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมากตั้งแต่เมื่อต้นเดือน เวียดนามทำการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 8.7 ล้านโดส ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม