รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน เดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสัปดาห์นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางทหารท่ามกลางการขยายอิทธิพลของจีน
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกระดับสูงของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางเยือนประเทศในอาเซียน โดยรัฐมนตรีออสตินจะแวะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์
รัฐมนตรีออสตินมีกำหนดกล่าวปราศรัยต่อ International Institute for Strategic Studies ที่สิงคโปร์ ในวันที่ 27 กรกฎาคม ในประเด็นที่เกี่ยวกับ "มุมมองใหม่ว่าด้วยการป้องกันแบบบูรณาการ" เพื่อต้านการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีออสตินกล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคือภารกิจสำคัญอันดับแรกในปฏิบัติการของสหรัฐฯ
เมอร์เรย์ ฮีบเบิร์ท นักวิเคราะห์จากสถาบัน Center for Strategic and International Studies ให้ความเห็นว่า เวลานี้อาเซียนมีความสำคัญอย่างมากต่อสหรัฐฯ หลังจากที่มีความรู้สึกว่าถูกเมินเฉยภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อน รวมทั้งคำถามจากหลายฝ่ายที่ว่า เจ็ดเดือนมาแล้วที่ไบเดนรับตำแหน่ง ทำไมยังไม่มีการทำอะไรที่เกี่ยวกับอาเซียน?
เมื่อวันพุธที่แล้ว รมต.ออสตินกล่าวที่เพนตากอนว่า ตนจะยืนยันพันธกิจของสหรัฐฯ ในด้านเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนคัดค้านการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนในแถบนี้ และว่า ไม่ควรมีประเทศใดประเทศหนึ่งที่สามารถบงการกฎเกณฑ์นี้
สัปดาห์ที่แล้ว เรือพิฆาตของสหรัฐฯ USS Benfold ได้เดินทางไปใกล้กับบริเวณหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ เพื่อท้าทายข้อจำกัดของการเดินเรือในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทางการจีนได้กล่าวอ้างในเวลาต่อมาว่า ได้ "ขับไล่" เรือพิฆาตของสหรัฐฯ ลำนั้นออกไป แต่กองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิเสธคำอ้างของจีน
จีน ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำหมู่เกาะพาราเซล และระบุให้เรือทหารทุกลำที่จะเดินทางผ่านบริเวณนี้ต้องขอนุญาตหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งสหรัฐฯ มิได้ปฏิบัติตาม