โรงเรียนตามเขตการศึกษาต่างๆ ในสหรัฐฯ กำลังจะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และกำลังพิจารณาว่าควรจะกำหนดให้ครูและนักเรียนสวมหน้ากากในโรงเรียนหรือไม่
การแบ่งโรงเรียนในอเมริกาออกเป็นเขตย่อยตามเขตการปกครองนั้น ทำให้มีแนวทางความปลอดภัยที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวาง และมีอิทธิพลจากการเมืองมาเกี่ยวข้อง อย่างเช่นในรัฐไอโอวา เมืองที่มีความเอนเอียงไปทางฝั่งพรรคเดโมแครตมักออกนโยบายให้ประชาชนสวมหน้ากากเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส แต่ชุมชนที่เล็กกว่าและมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากกว่า มักมอบสิทธิในการตัดสินใจนั้นให้แต่ละครอบครัว
คุณไมค์ แม็คกรอรี หัวหน้าเขตการศึกษาออตตัมวา ในรัฐไอโอวา กล่าวกับสำนักข่าว Associated Press ว่าทุกอย่างคงจะง่ายกว่านี้หากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐออกกฎที่แน่นอนตายตัวมาใช้กับทุกโรงเรียน แต่ในเมื่อไม่มีกฏดังกล่าว เขตการศึกษาของตนจึงตัดสินใจสนับสนุนแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ คือไม่มีข้อกำหนดให้สวมหน้ากากในโรงเรียน
และนั่นหมายความว่า ในขณะที่บางโรงเรียนในอเมริกามีนโยบายให้นักเรียนสวมหน้ากากในโรงเรียน แต่บางโรงเรียนในอีกหลายรัฐกลับไม่มีกฎนั้น หรือปล่อยให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสินใจกันเอง
คำแนะนำของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ที่ต่อต้านนโยบายการสวมหน้ากากนั้น เกิดจากแนวคิดที่ว่าข้อกำหนดดังกล่าวอาจทำให้มีคำถามตามมามากมาย เช่น หน้ากากแบบไหนที่สามารถใช้ได้บ้าง? กฎนี้จะถูกนำมาบังคับใช้อย่างไร? และอะไรคือข้อยกเว้นบ้าง? เป็นต้น
ด้านผู้ว่าการรัฐไอโอวา คิม เรย์โนลด์ สังกัดพรรครีพับลิกัน อธิบายถึงเหตุผลที่คัดค้านนโยบายการสวมหน้ากากในโรงเรียนว่า หากมีใครบางคนที่สวมหน้ากากอันเดิมเป็นเวลาเจ็ดวันโดยที่ไม่ได้ซัก หรือเปลี่ยนหน้ากากนั้น จะสามารถป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้หรือไม่? และใครจะเป็นผู้ตรวจสอบในเรื่องนี้?
นายแพทย์ร็อบ เมอร์ฟีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัย Northwestern ในนครชิคาโก กล่าวว่า จากมุมมองทางการแพทย์แล้ว การสวมหน้ากากในโรงเรียนควรจะเป็นทางเลือกที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ ทางโรงเรียนเองก็ควรมีการดำเนินการอื่น ๆ เช่น ลดขนาดชั้นเรียน จำกัดการเล่นกีฬาที่ต้องมีการสัมผัส และวัดอุณหภูมิทั้งนักเรียนและครูก่อนที่จะเข้าไปในอาคารเรียน
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ผู้นี้กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันยังไร้ทิศทางและไร้การวางแผน
Your browser doesn’t support HTML5
ปัจจุบัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) แนะนำให้ทั้งนักเรียนและครูสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเท่าที่จะทำได้ ขณะที่หลายประเทศที่ได้เปิดให้มีการเรียนการสอนแล้ว ยังไม่ได้กำหนดให้นักเรียนทุกคนสวมหน้ากาก
ตัวอย่างเช่น ที่ฝรั่งเศส การสวมหน้ากากกำหนดไว้สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป ส่วนที่นอร์เวย์ ในโรงเรียนสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน เด็ก ๆ ถูกจัดให้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยที่ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยแต่อย่างใด