นานาชาติปัดฝุ่นมาตรการล็อคดาวน์รอบสอง หลังยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลกพุ่ง 1 ล้านคนภายใน 5 วัน พร้อมสั่งปรับประชาชนหากไม่สวมหน้ากากในที่สาธารณะ
เริ่มที่อังกฤษ รัฐมนตรีสาธารณสุข ประกาศบังคับให้สวมหน้ากากหากไปซื้อสินค้าที่ห้างค้าปลีก เริ่มต้น 24 กรกฎาคมนี้ หากฝ่าฝืนเจอค่าปรับ 125 ดอลลาร์ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 11 ปี และผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หลังจากมีเรื่องร้องเรียนจากพนักงานในร้านค้ากลุ่มนี้ที่พบว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและเสียชีวิตมากกว่าอาชีพอื่นๆ
โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ระบุด้วยว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ของพนักงานในห้างค้าปลีกสูงกว่าประชาชนทั่วไปราว 60-75% ทีเดียว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอังกฤษอยู่ที่ 4.5 หมื่นคน ติดเชื้อกว่า 2.9 แสนคน
ขยับไปที่ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ในฝรั่งเศสให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ เมื่อวันอังคาร เพื่อป้องกันการกลับมาระบาดซ้ำของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องประกาศล็อคดาวน์ร่วม 2 เดือนเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุด ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อเกือบ 2 แสนคน และเสียชีวิตราว 3 หมื่นคน
ไปที่สเปน แคว้นคาตาลุญญา ไม่สนคำสั่งศาลเดินหน้าแผนล็อคดาวน์อีกครั้ง ห้ามการรวมตัวของผู้คนเกิน 10 คนในพื้นที่ เริ่มต้นวันพุธนี้ และมีผลต่อเนื่องไป 15 วันข้างหน้า นอกจากนี้ยังบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ หากฝ่าฝืนเจอค่าปรับ 114 ดอลลาร์ด้วยเช่นกัน โดยแคว้นคาตาลุญญา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 6.5 หมื่นคน ขณะที่สเปนโดยรวมมีผู้ติดเชื้อกว่า 2.6 แสนคน
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั่วโลก อยู่ที่ 13.2 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 5.7 แสนคน